เมื่อลูกต้องอยู่บ้านมากขึ้น นี่คือวิธีส่งเสริมพัฒนาการในเด็กยุควิกฤติโควิด-19




ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เด็กๆ ส่วนใหญ่เปิดเทอมและเริ่มไปโรงเรียนกันแล้ว บ้างก็ยังคงเรียนออนไลน์ที่บ้าน ซึ่งแต่ละโรงเรียนมีการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องไปกับสถานการณ์ COVID-19 โดยบางโรงเรียนจัดให้เข้าเรียนที่โรงเรียนวันเว้นวัน บางโรงเรียน จัดให้เรียนสัปดาห์เว้นสัปดาห์ เป็นต้น ส่วนในวันที่หยุดอยู่บ้านก็อาจมีเรียนออนไลน์เสริม ดังนั้น ในช่วงนี้เด็กๆ จะมีเวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น พ่อแม่จึงควรรู้ถึงวิธีการดูแลเด็กๆ ในยุคนี้

เมื่อเด็กมีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น พ่อแม่รับมือได้อย่างไรบ้าง

  • แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ที่ดูแลเด็ก ต่างก็ต้องปรับตัวในสถานการณ์แบบนี้เช่นกัน ดังนั้นเมื่อเด็กๆ จะต้องอยู่ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ควรจัดสรรเวลาของตนเองให้ตรงตามตารางการเรียนและกิจกรรมของลูกๆ
  • เวลาที่เหลือนอกเหนือไปจากการเรียนออนไลน์ ควรวางแผนการทำกิจกรรมในแต่ละวัน อาจช่วยกันคิดกิจกรรมร่วมกับเด็กๆ โดยควรมีกิจกรรมที่หลากหลาย และมีการกำหนดตารางเวลาของแต่ละกิจกรรมอย่างชัดเจน
  • สำหรับตัวอย่างกิจกรรมที่ช่วยเสริมพัฒนาการเด็ก เช่น กิจกรรมศิลปะ วาดภาพ ระบายสี ปั้นดินน้ำมัน กิจกรรมอ่านหนังสือนิทาน กิจกรรมเกม ต่อจิ๊กซอว์ จับคู่รูปภาพ ลากเส้นต่อจุด บันไดงู กิจกรรมการเต้นเข้าจังหวะ ร้องเพลง เล่นดนตรี กิจกรรมการทำอาหารหรือขนม กิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ เตะฟุตบอล เป็นต้น

  • นอกจากกิจกรรมต่างๆ แล้ว ควรฝึกให้เด็กๆ ได้ช่วยเหลือตนเอง ทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่น รับประทานอาหาร อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัว เป็นต้น นอกจากนั้นอาจมอบหมายงานบ้านง่ายๆ ให้ทำ เช่น พับผ้าห่ม เก็บที่นอนหลังจากตื่นนอน เอาผ้าไปใส่ถังซักผ้า ตากผ้า ล้างจาน รดน้ำต้นไม้ เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการใช้สื่อผ่านจอต่างๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน ควรกำหนดระยะเวลาในการใช้สื่อผ่านจอให้ชัดเจน เช่น ใช้ได้ไม่เกินวันละ 1-2 ชั่วโมง เป็นต้น

ในช่วงเวลาที่เด็กๆ ได้มีเวลาอยู่บ้านนานๆ แบบนี้ คุณพ่อคุณแม่จะได้สัมผัสกับความซุกซน ความดื้อของเด็กๆ มากกว่าช่วงที่ไปโรงเรียน บวกกับความเครียดส่วนตัวของคุณพ่อคุณแม่เอง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดและปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัวได้มากขึ้น ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกของท่านมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ซุกซนมากกว่าปกติ ไม่จดจ่อหรือไม่มีสมาธิ รอคอยไม่ได้ หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ควรพาเข้ามาพบแพทย์เพื่อปรึกษาเพิ่มเติม

บทความโดย : พญ.ณิชา ลิ้มตระกูล กุมารแพทย์ด้านพฤติกรรมและพัฒนาการ ศูนย์สุขภาพเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 2

Share

Recent Posts

New York City’s Sweetest Ice Cream Shops To Check Out

New York City is a haven for food lovers, and when it comes to ice… Read More

11 months ago

Explore Montenegro, The Hidden Gem of the Balkans

Montenegro, a hidden gem nestled in the Balkans, offers travelers a captivating experience with its… Read More

11 months ago

Spice Up Your Salad Game With These Tips To Make Salads More Exciting

Salads are a fantastic way to incorporate fresh and nutritious ingredients into our daily meals.… Read More

11 months ago

The Best Travel Destinations For Fitness Enthusiasts

  For fitness enthusiasts seeking to combine their love for travel and physical well-being, there… Read More

11 months ago

What To Do On Your First Visit To Edinburgh

Edinburgh, the capital city of Scotland, is a captivating destination that offers a perfect blend… Read More

12 months ago

Which Are The Consistently Most Popular Starbucks Drinks?

Starbucks has become a global phenomenon, captivating millions of coffee enthusiasts with its diverse menu… Read More

12 months ago