เจาะ MIG-29 ทอ. พม่า บินโจมตีกองกำลังชนกลุ่มน้อยล้ำข้ามพรมแดนไทย




การบินโจมตีกองกำลังกะเหรี่ยงของกองทัพพม่า ด้วยเครื่องบินรบความเร็วเหนือเสียงรุ่น Mig-29 จนรุกล้ำข้ามพรมแดนของไทย สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยที่อยู่ใกล้กับจุดปะทะ เครื่องบินรบ Mig-29 ที่บินตีวงล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย เพื่อวกกลับไปโจมตีที่มั่นของชนกลุ่มน้อยเกิดขึ้นหลายระลอก และทุกรอบก็บินล้ำแนวเขตแดนเข้ามาลึกถึง 4-5 กิโลเมตร ถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้น เนื่องจากในอดีตกองทัพพม่ามักจะระดมโจมตีด้วยปืนใหญ่หรืออาวุธยิงระยะปานกลางอย่างปืนครก หรือปืนไร้แรงสะท้อนมากกว่าจะเอาเครื่องบินรบสมรรถนะสูงมาบินถล่มด้วยจรวดอากาศสู่พื้นแบบนี้  

Mikoyan MiG-29 ของ ทอ. พม่า ถูกบรรจุเข้าประจำการในกองทัพอากาศมากถึง 26 เครื่อง เมื่อปี พ.ศ. 2531 (อังกฤษ: MiG-29; รัสเซีย: МиГ-29) Mikoyan MiG-29 เป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นที่สี่ ออกแบบโดยอดีตสหภาพโซเวียต สำหรับครองความเป็นเจ้าอากาศ Mig-29 ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2513 โดยบริษัทผลิตอากาศยาน Mikoyan เข้าประจำการในกองทัพอากาศของอดีตสหภาพโซเวียตเมื่อปี พ.ศ. 2526 และยังคงถูกใช้โดยกองทัพอากาศรัสเซียเช่นเดียวกันกับอีกหลาย ๆ ประเทศจนถึงทุกวันนี้ กองกำลังนาโต้ เรียกเครื่อง Mig-29 ว่าฟัลครัม (Fulcrum) นับเป็นเครื่องบินขับไล่ในช่วงสงครามเย็น ซึ่งเกิดกรณีขัดแย้งกันระหว่างฝั่งตะวันตกกับอดีตสหภาพโซเวียตบ่อยครั้ง จากแนวคิดในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่สกัดกั้น เพื่อต่อกรกับเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่ของสหรัฐฯ (ในขณะนั้น) ที่มีประจำการอยู่ในกองทัพอากาศไทย นั่นก็คือ F-16 fighting falcon รวมถึง F/A-18  hornet  (ทอ.ไทย ไม่มีเครื่อง F/A-18 ประจำการ) Mig-29 เป็นเครื่องบินขับไล่โจมตีที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีเครื่องยนต์ถึงสองเครื่อง เพื่อเพิ่มสปีดความเร็วและความเสถียรขณะบินปฏิบัติการ ทำความเร็วสูงสุด 2 มัค หรือประมาณ 2,400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีเพดานบินสูงสุด 60,000 ฟุต รัศมีปฏิบัติการ ไกล 800 กิโลเมตร รองรับการติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลางแบบ R27 (AA-10) ขีปนาวุธพิสัยใกล้แบบ R73 (AA-11) ปืนใหญ่อากาศจีเอสเอช-30-1 รวมถึงจรวด และระเบิด Mig-29 บางรุ่นยังถูกดัดแปลงให้สามารถบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ได้อีกด้วย

ระบบอากาศพลศาสตร์ที่คล้ายคลึงกับ Su-27 แต่มีข้อแตกต่างที่โดดเด่นกว่าด้านแอโรไดนามิก โครงสร้างส่วนใหญ่ทำมาจากอะลูมิเนียมและวัสดุผสม ปีกแบบลู่ที่กลืนเข้ากับปีกเสริมที่ส่วนหน้า ทำมุม 40 องศา ส่วนหางที่ลู่ไปทางด้านหลังและหางคู่ติดตั้งอยู่ที่ส่วนท้ายของเครื่องยนต์ แพนปีกส่วนหน้าสี่ส่วนและปรับเป็นแบบห้าส่วนในรุ่นต่อๆ มา เป็นเครื่องบินขับไล่เครื่องยนต์ไอพ่นแบบแรกของรัสเซียที่สามารถทำกระบวนท่าที่เรียกว่าปูกาเชฟส์คอบราได้

Mig-29 มีการควบคุมด้วยไฮดรอลิกและระบบนักบินอัตโนมัติ SAU-451 แต่ไม่เหมือนกับ Su-27 ตรงที่ไม่มีระบบฟลาย-บาย-ไวร์ ซึ่งมีอยู่ในเครื่อง F-16 ของ ทอ. ไทย แต่มีความว่องไวและการหักเลี้ยวที่คล่องตัว สามารถทำมุมปะทะได้ในระดับอัลฟา และมีการต้านทานการหมุน โครงสร้างรับแรงได้ถึง 9 จี ระบบควบคุมการบิน มีการจำกัดเพื่อป้องกันไม่ให้นักบินทำท่าทางการบินที่มีแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางมากเกินกว่า 9 จี แต่ก็สามารถปลดระบบนี้ออกได้ ในการฝึกของกองทัพอากาศสหรัฐร่วมกับกองทัพอากาศเยอรมนี Mig-29 ของฝ่ายเยอรมนีได้เอาชนะ F-16 ในการต่อสู้ระยะใกล้แทบจะทุกครั้ง ด้วยการใช้เซนเซอร์ IRST และหมวกบินแสดงภาพ พร้อมกับขีปนาวุธวิมเปล อาร์-73

เครื่องยนต์คลิมอฟ อาร์ดี-33 ขนาดใหญ่สองเครื่องยนต์ ให้อัตราแรงขับ 11,240 ปอนด์ และ 18,277 ปอนด์เมื่อใช้สันดาปท้าย พื้นที่ระหว่างเครื่องยนต์มีไว้เพื่อลดน้ำหนักที่ปีก เพื่อเพิ่มความคล่องตัว เครื่องยนต์มีช่องรับลมทรงลิ่มที่อยู่ใต้ปีกเสริม ซึ่งมีส่วนลาดเอียงที่ปรับระดับได้ เพื่อทำความเร็วเหนือเสียง เมื่อมีการนำมาใช้กับสนามบินที่ขรุขระ ช่องรับลมหลักจะถูกปิดสนิทและใช้ช่องรับลมสำรองที่ด้านบนของลำตัวแทนสำหรับการวิ่งขึ้น ลงจอด หรือบินในระดับต่ำ เพื่อป้องกันไม่ให้มีเศษฝุ่นหลุดรอดเข้าไปในเครื่องยนต์จนเกิดความเสียหาย ดังนั้นเครื่องยนต์จึงถูกออกแบบให้รับอากาศผ่านช่องบานเกล็ดบนปีกเสริม ซึ่งจะเปิดโดยอัตโนมัติเมื่อช่องรับลมหลักถูกปิด อย่างไรก็ตาม Mig รุ่นล่าสุด นั่นก็คือ Mig-35 ได้นำส่วนบานเกล็ดรับอากาศนี้ออกไป และใช้ช่องรับลมที่มีตะแกรงแทน ซึ่งคล้ายคลึงกับของ Su-27 แม้เครื่องยนต์จะให้กำลังสูงมากพอที่จะทำให้เครื่องบินสามารถไต่ระดับได้เหนือกว่าเครื่องบินของอเมริกา แต่อายุการใช้งานของเครื่องสั้นมาก ต้องทำการตรวจเช็กทุกๆ 350 ชั่วโมงบินเป็นอย่างน้อย

พิสัยและระบบเชื้อเพลิง
ความจุเชื้อเพลิงภายในของ Mig-29 B นั้นมีเพียง 4,365 ลิตร โดยแบ่งเป็นหกส่วนในถังเชื้อเพลิง สี่ส่วนในลำตัว และหนึ่งส่วนในปีกแต่ละข้าง ผลที่ได้คือเครื่องบินมีพิสัยที่จำกัดมาก เมื่อเทียบกับเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นของโซเวียตแบบดั้งเดิม เพื่อให้ทำการบินได้นานมากขึ้น Mig-29 เพิ่มถังเชื้อเพลิงกลางที่ปลดได้ ขนาด 1,500 ลิตร และถังเชื้อเพลิงข้างที่ปลดได้ ขนาด 1,150 ลิตร สองถัง โดยติดตั้งไว้ใต้ปีก นอกจากนี้ยังมีบางรุ่นที่สามารถติดตั้งระบบเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ 

ห้องนักบิน
ห้องนักบินมีจุดเด่นคือคันบังคับตรงกลางและคันเร่งที่ด้านข้าง นักบินจะนั่งอยู่ในเก้าอี้ดีดตัวแบบ ซเวซดา เค-36 ดีเอ็ม ซึ่งมีการทำงานที่ดีมากขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน ห้องนักบินมีหน้าปัดเครื่องวัดต่างๆ พร้อมกับหน้าจอ  HUD  หรือ เฮด-อัพ ดิสเพลย์ (head up display) และหน้าจอติดหมวกแบบ ชเชล-2 ยูเอ็ม โดยเน้นไปที่การทำให้ห้องนักบินของ Mig-29 เหมือนกับ Mig-23 และเครื่องบินรบรุ่นอื่น ๆ ของโซเวียต เพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงอะไหล่ชิ้นส่วนมากกว่าความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ถึงกระนั้น Mig-29 มีทัศนวิสัยมุมมองที่ดีกว่าเครื่องบินขับไล่แบบอื่น ๆ ของรัสเซีย เพราะฝาครอบทรงโค้งที่อยู่ในตำแหน่งสูง ทำให้มองเห็นได้เกือบจะรอบทิศทาง

อาวุธของ Mig-29 ติดตั้งปืนใหญ่อากาศ GSH G-30-1 ขนาด 30 ม.ม.หนึ่งกระบอกที่โคนปีก เดิมใช้แมกกาซีน 150 นัด ต่อมา มีการปรับลดเหลือ 100 นัด Mig-29 B แบบเดิมนั้นไม่สามารถทำการยิงปืนใหญ่อากาศได้ เมื่อต้องติดตั้งถังเชื้อเพลิงตรงกลาง เพราะไปบังช่องดีดปลอกกระสุน ต่อมาได้มีการแก้ไขใน Mig-29 S และรุ่นต่อ ๆ มา มีจุดติดตั้งสามจุดใต้ปีกแต่ละข้าง (บางแบบก็สี่จุด) จุดติดตั้งภายใน สามารถติดตั้งถังเชื้อเพลิงขนาด 1,150 ลิตร ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยกลางวิมเปล อาร์-27 หนึ่งลูก ระเบิดหรือจรวด สามารถบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ไว้ภายในได้ จุดติดตั้งภายนอกมักติดตั้งขีปนาวุธวิมเปล อาร์-73 แม้ว่าบางครั้งจะมีการใช้จรวดมอลนิยา อาร์-60 ที่เก่ากว่า  Mig-29 รุ่นที่ได้รับการพัฒนา สามารถใช้ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ เช่นเดียวกับขีปนาวุธอากาศสู่พื้น

ล่าสุด ทางการของพม่า ได้ออกมาขอโทษจากกรณีที่เครื่องบินรบได้บินรุกล้ำน่านฟ้าและแนวเขตแดนของไทย ตามด้วยเสียงก่นด่าของคนที่เกลียดกองทัพ ซึ่งพากันคิดไปเองว่า ทหารไม่ยอมทำอะไร หรือทำช้าเกินไป กรณีดังกล่าว เป็นเหตุกระทบกระทั่งของเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เหมือนข้างบ้านทะเลาะกัน ขว้างปาสิ่งของจนมาหล่นใส่บ้านเรา จะให้เดินออกไปท้าตีท้าต่อยร่วมวงทะเลาะเบาะแว้งลุกลามใหญ่โต น่าจะเป็นความคิดที่มีเฉพาะคนโง่เท่านั้น เหตุการณ์พม่าโจมตีชนกลุ่มน้อยตามแนวตะเข็บชายแดนนั้น เกิดขึ้นมานานหลายสิบปีแล้ว โดยที่ทหารไทยได้แต่คอยช่วยเหลือผู้อพยพที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น หนีไฟสงครามความขัดแย้ง เข้ามาหลบในเขตไทยอยู่เป็นประจำ ทหารไทยคอยช่วยเหลือผู้อพยพเหล่านั้นให้ปลอดภัย เหตุการณ์กระทบกระทั่งกันเองของเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องภายในของพม่า จะให้ไทยเข้าไปตอบโต้อย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือย้ายประเทศหนีก็คงเป็นไปไม่ได้ และถ้าโดดเข้าไปร่วมวงกับความขัดแย้งนั้น น่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเอาซะเลย กับสถานการณ์โลกในปัจจุบันที่เรากำลังเปิดประเทศ เพื่อทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าและขยายตัวอย่างราดเร็ว แน่นอนว่า การป้องกันประเทศนั้น เป็นหน้าที่ของทหารทั้งสามเหล่าทัพ รวมถึงตำรวจและพลเรือน ซึ่งต่างทำหน้าที่นั้นเป็นประจำอยู่แล้ว มีการลาดตระเวนของทัพบก เรือและอากาศอยู่เป็นประจำ เมื่อมีเครื่องบินรบของเพื่อนบ้านที่มีปัญหาภายในกันเอง บินรุกล้ำข้ามเขตแดนเข้ามา จะจงใจหรือไม่ก็ตาม สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ การป้องปรามด้วยการส่งเครื่องบินรบขึ้นไปลาดตระเวน และแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีก ครั้นจะให้ส่งเครื่องบินรบของเราขึ้นไปสอยเครื่องบินรบของพม่าที่บินรุกล้ำเข้ามานั้น เท่ากับเป็นการเอาตัวเข้าไปร่วมในความขัดแย้งที่ไม่น่าจะเป็นความคิดของคนฉลาด แต่ดันเป็นความคิดของพวกที่ชังชาติเท่านั้นเองละครับ.

 

Share

Recent Posts

New York City’s Sweetest Ice Cream Shops To Check Out

New York City is a haven for food lovers, and when it comes to ice… Read More

11 months ago

Explore Montenegro, The Hidden Gem of the Balkans

Montenegro, a hidden gem nestled in the Balkans, offers travelers a captivating experience with its… Read More

11 months ago

Spice Up Your Salad Game With These Tips To Make Salads More Exciting

Salads are a fantastic way to incorporate fresh and nutritious ingredients into our daily meals.… Read More

11 months ago

The Best Travel Destinations For Fitness Enthusiasts

  For fitness enthusiasts seeking to combine their love for travel and physical well-being, there… Read More

11 months ago

What To Do On Your First Visit To Edinburgh

Edinburgh, the capital city of Scotland, is a captivating destination that offers a perfect blend… Read More

12 months ago

Which Are The Consistently Most Popular Starbucks Drinks?

Starbucks has become a global phenomenon, captivating millions of coffee enthusiasts with its diverse menu… Read More

12 months ago