เสียงเรียกร้องดังกระหึ่ม! กนง. ประชุมวันนี้ (13 ส.ค.) จะหั่นดอกเบี้ยหรือไม่? จับตาผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย
กนง. เตรียมเผชิญแรงกดดัน หั่นดอกเบี้ยหรือไม่?
วันนี้ (13 สิงหาคม) เป็นวันสำคัญที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เตรียมหารือเรื่องทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งคาดว่าจะเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากเสียงเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยที่ดังกระหึ่มอยู่ในขณะนี้
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ “ดอกเบี้ย” กลายเป็นเป้าสายตาของประชาชนและภาคธุรกิจอย่างใกล้ชิด เสียงเรียกร้องให้ กนง. ลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีหลายภาคส่วนออกมาแสดงความเห็นถึงผลกระทบของดอกเบี้ยที่สูงเกินไปต่อการดำเนินธุรกิจและการจับจ่ายของผู้บริโภค
ทำไมต้องลดดอกเบี้ย?
เหตุผลหลักที่หลายฝ่ายต้องการให้ กนง. ลดดอกเบี้ยคือ “การกระตุ้นเศรษฐกิจ” ดอกเบี้ยที่สูงจะส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจลังเลที่จะลงทุนขยายกิจการ และผู้บริโภคก็ลดการใช้จ่ายลง ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวลง การลดดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนการกู้ยืม ทำให้ธุรกิจกล้าลงทุนมากขึ้น และผู้บริโภคก็มีกำลังซื้อมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้
กนง. จะตัดสินใจอย่างไร?
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจว่าจะลดดอกเบี้ยหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย กนง. จะต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น สภาพเศรษฐกิจโลก สภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพทางการเงิน หากอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูง หรือมีความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน กนง. อาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ หรืออาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ผลกระทบจากการตัดสินใจของ กนง. จะมีต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก หาก กนง. ลดดอกเบี้ย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็อาจทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นได้ ในทางกลับกัน หาก กนง. คงอัตราดอกเบี้ยไว้ หรือปรับขึ้นดอกเบี้ย จะช่วยควบคุมเงินเฟ้อ แต่ก็อาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงได้
บทสรุป การประชุมของ กนง. ในวันนี้จึงเป็นที่จับตามองของหลายฝ่าย เพราะการตัดสินใจของ กนง. จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในวงกว้าง
