ไทยเดินหน้าสร้าง 'ฮับทางการเงิน' ร่างกฎหมายสำคัญเข้าสภาแล้ว! คลังเร่งเครื่องดัน Financial Hub

ข่าวสำคัญวันนี้! คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไฟเขียว ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน หรือ Financial Hub อย่างเป็นทางการ เตรียมส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวาระที่ 1 ทันที เพื่อเร่งให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของภูมิภาค
ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอย่างถี่ถ้วนแล้ว โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อส่งเสริมและสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจทางการเงินที่หลากหลาย ทั้งในส่วนของธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนรวม และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทำไมต้องมี Financial Hub?
- ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ: การมีศูนย์กลางทางการเงินที่แข็งแกร่งจะช่วยดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
- เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน: ทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สร้างงานและรายได้: การเติบโตของภาคการเงินจะนำมาซึ่งการสร้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับประเทศ
- ส่งเสริมเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech): สร้างโอกาสให้ธุรกิจ FinTech ได้พัฒนาและเติบโตในประเทศไทย
ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ครอบคลุมประเด็นสำคัญอะไรบ้าง?
- การกำกับดูแล: กำหนดกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
- การส่งเสริม: กำหนดมาตรการส่งเสริมที่จูงใจให้ธุรกิจต่างๆ เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทย
- การพัฒนาบุคลากร: สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรด้านการเงินให้มีความรู้ความสามารถที่ทันสมัย
- การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจทางการเงิน เช่น ระบบการชำระเงิน และระบบรักษาความปลอดภัย
ขั้นตอนต่อไปคืออะไร? ร่างกฎหมายจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 ก่อน จากนั้นจะมีการพิจารณาในวาระอื่นๆ จนกว่าจะผ่านความเห็นชอบจากสภาและประกาศใช้เป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการ ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้
การผลักดัน Financial Hub ถือเป็นวาระสำคัญของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับคนไทย