เมื่อถึงเวลาต้องเสียภาษีป้ายทะเบียนในแต่ละปี ต้องทำ พ.ร.บ.รถยนต์ควบคู่ไปด้วย แม้มันจะเป็นกฎบังคับว่ายานพาหนะทุกคันจำเป็นต้องต่อ พ.ร.บ.รถยนต์ ทุกปี แต่ก็สงสัยเหลือเกินว่ามันจำเป็นจริงหรือ และหากเราทำประกันภัยรถยนต์ต่างหากอยู่แล้วยังจำเป็นต้องเสียค่า พ.ร.บ.รถยนต์อีกหรือไม่
ชื่อเต็มๆ ของเจ้า พ.ร.บ.รถยนต์ คือ พระราชบัญญัติประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือเรียกสั้นๆ ว่า พ.ร.บ. ซึ่งก็สมตามชื่อ ภาคบังคับ ต้องต่ออายุทุกปีจึงจะสามารถเสียภาษีรถยนต์รายปีได้
คำตอบคือ ไม่ได้ ไม่งั้นจะมีโทษทางกฎหมายครับ เจอปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งเจ้าของรถและผู้ที่นำรถที่ไม่มีประกันภัยตาม พ.ร.บ.มาใช้
– รถยนต์โดยสารที่นั่งไม่เกิน 7 คน 600 บาทต่อปี
– รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน ไม่เกิน 15 ที่นั่ง 1,100 บาทต่อปี
– รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน เกิน 15 ที่นั่ง ไม่เกิน 20 ที่นั่ง 2,050 บาทต่อปี
– รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน เกิน 20 ที่นั่ง ไม่เกิน 40 ที่นั่ง 3,200 บาทต่อปี
– รถยนต์โดยสารเกิน 7 คน เกิน 40 ที่นั่ง บาทต่อปี
– รถยนต์ไฟฟ้า 600 บาทต่อปี
ราคายังไม่ภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7%
ในเมื่อเราจ่ายเงินซื้อเจ้าประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับมาแล้วย่อมต้องมีความคุ้มครองหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นแน่นอน โดยเราสามารถเคลมอุบัติเหตุได้กับบริษัทประกันที่เราซื้อ พ.ร.บ.รถยนต์ มา ในกรณีที่
– บาดเจ็บ สามารถเคลมค่ารักษาพยาบาลได้ โดยทาง พ.ร.บ.จะจ่ายตามจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน
– ทุพพลภาพ หากพิการหลังเกิดอุบัติเหตุ ทางบริษัทประกันจะจ่ายให้อีกจากค่ารักษาเบื้องต้น 30,000 บาทจากข้อ 1 แต่ไม่เกิน 65,000 บาทต่อคน
– เสียชีวิต ถ้าเสียชีวิตทันทีหลังจากประสบอุบัติเหตุ บริษัทประกันจะจ่ายเงินค่าทำศพ 35,000 บาทต่อคน แต่หากเสียชีวิตหลังจากรับการรักษาไปแล้ว (จากข้อ 1 ตามวงเงินรักษา 30,000 บาทต่อคน) ทางประกันก็จะจ่ายแบบเหมารวมไม่เกิน 65,000 บาท
อันนี้เป็นการเคลมได้ทันทีโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิดของผู้เอาประกันภัย แต่หากพิสูจน์ยืนยันว่าผู้ขับฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิด ฝั่งบริษัทประกันที่เป็นฝ่ายผิดจะรับผิดชอบแก่ผู้เสียหาย ในกรณีบาดเจ็บ รับค่าชดเชยไม่เกิน 80,000 บาท แต่หากเสียชีวิตหรือพิการ จะชดเชยเป็นเงิน 500,000 บาท
ผู้บาดเจ็บหรือทายาท สามารถยื่นเรื่องขอรับค่ารักษาพยาบาลด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้โรงพยาบาลเป็นผู้รับแทนก็ได้ ภายใน 7 วันโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด และระยะเวลาในการขอใช้สิทธิ์ พ.ร.บ.ภายใน 180 วันหลังจากวันที่เกิดเหตุ โดยเตรียมหลักฐานให้ครบ ดังนี้
1. สำเนาบัตรประชาชนทั้งผู้บาดเจ็บและเจ้าของรถ
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
3. สำเนาบันทึกประจำวันจากตำรวจ
4. สำเนาหนังสือจดทะเบียนรถ
5. ตารางกรมธรรม์ประกันภัย
6. ใบเสร็จรับเงินและใบรับรองแพทย์จากทางโรงพยาบาลที่เข้ารับการรักษา
สำหรับในกรณีเสียชีวิต นำเอกสาร สำเนาบันทึกประจำวันพนักงานสอบสวนที่แสดงว่าผู้รับประกันถึงแก่ความตายจากประสบภัยจากรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ประสบอุบัติเหตุ สำเนาบัตรประชาชนทายาท สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาใบมรณบัตร ยื่นกับทางบริษัทประกันนั้นๆ
ผู้เขียน : เครื่องยนต์คนขยัน
New York City is a haven for food lovers, and when it comes to ice… Read More
Montenegro, a hidden gem nestled in the Balkans, offers travelers a captivating experience with its… Read More
Salads are a fantastic way to incorporate fresh and nutritious ingredients into our daily meals.… Read More
For fitness enthusiasts seeking to combine their love for travel and physical well-being, there… Read More
Edinburgh, the capital city of Scotland, is a captivating destination that offers a perfect blend… Read More
Starbucks has become a global phenomenon, captivating millions of coffee enthusiasts with its diverse menu… Read More