iOS 15.4 ใส่หน้ากากอนามัย Face ID ปลดล็อกหน้าจอไอโฟนได้แล้ว




อัปเดตได้แล้ววันนี้ ระบบปฏิบัติการ iOS 15.4 จากแอปเปิล (Apple) ที่ปล่อยออกมาให้ใช้งานกันเป็นที่เรียบร้อย ฟีเจอร์ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่น คงต้องยกให้ฟีเจอร์ Face ID ที่สามารถสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกหน้าจอไอโฟน โดยที่ไม่ต้องถอดแมสก์ หรือหน้ากากอนามัย ถือเป็นฟีเจอร์ที่ค่อนข้างทันสมัยและเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

iOS 15.4 รุ่นไหนอัปเดตได้บ้าง?

สำหรับ iPhone ที่รองรับการใช้งานฟีเจอร์สแกนหน้า (Face ID) แบบใส่หน้ากากอนามัย จะต้องเป็น iPhone 12 ขึ้นไปเท่านั้น สามารถอัปเดต iOS 15.4 ผ่าน Cellular สัญญาณ 4G หรือ 5G ได้แล้ว โดยไม่ต้องใช้แค่ Wifi เหมือนที่ผ่านมา หลังจากนั้นจึงค่อยตั้งค่า Face ID ปลดล็อกหน้าจอไอโฟนแบบสวมหน้ากากอนามัย

รวมไอโฟนรุ่นที่รองรับการปลดล็อกหน้าจอไอโฟน ขณะใส่หน้ากากอนามัย

  • iPhone 12
  • iPhone 12 mini
  • iPhone 12 Pro
  • iPhone 12 Pro Max
  • iPhone 13
  • iPhone 13 mini
  • iPhone 13 Pro
  • iPhone 13 Pro Max

รวมไอโฟนรุ่นที่รองรับการอัปเดต iOS 15.4

  • iPhone 13
  • iPhone 13 Pro
  • iPhone 13 Pro Max
  • iPhone 12
  • iPhone 12 mini
  • iPhone 12 Pro
  • iPhone 12 Pro Max
  • iPhone 11
  • iPhone 11 Pro
  • iPhone 11 Pro Max
  • iPhone XS
  • iPhone XS Max
  • iPhone XR
  • iPhone X
  • iPhone 8
  • iPhone 8 Plus
  • iPhone 7
  • iPhone 7 Plus
  • iPhone 6s
  • iPhone 6s Plus
  • iPhone SE (รุ่นที่ 1)
  • iPhone SE (รุ่นที่ 2)
  • iPod touch (รุ่นที่ 7)

วิธีตั้งค่าสแกนหน้า (Face ID) ปลดล็อกหน้าจอไอโฟน แบบใส่แมสก์

หลังจากที่อัปเดต iOS 15.4 เรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถเข้าไปตั้งค่าฟีเจอร์การสแกนใบหน้า Face ID แบบใส่หน้ากากอนามัยได้ ตามขั้นตอนง่ายๆ 

1. เข้าไปที่การตั้งค่า (Setting) > เลือกแถบเมนู “Face ID และรหัส

2. เปิดใช้งาน (On) แถบ “Face ID ขณะสวมใส่หน้ากากอนามัย

3. เลือกปุ่ม “เริ่มต้นกัน” เพื่อเริ่มลงทะเบียนสแกนใบหน้า โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย

4. ให้นำใบหน้าของเรา เข้ามาอยู่ในกรอบของกล้อง > หมุนศีรษะเป็นวงกลม เพื่อแสดงใบหน้าทุกมุม (สามารถกดปุ่ม “เพิ่มแว่นตา” ได้ด้วย สำหรับผู้ที่สวมแว่นตาก็ไม่จำเป็นต้องถอดแว่นออก ขณะทำการสแกนใบหน้า)

5. เลือกปุ่ม “เสร็จสิ้น” เป็นอันเสร็จเรียบร้อย หลังจากนั้นก็สามารถใช้งานปลดล็อกไอโฟนแบบสวมหน้ากากอนามัยได้เลย

ระบบปฏิบัติการ iOS 15.4 มีอะไรใหม่บ้าง?

  • อีโมจิใหม่ 123 แบบ : เพิ่มสัญลักษณ์อีโมจิที่ส่งเสริมความหลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น ใบหน้าตัวละครใหม่ อารมณ์สีหน้าแสดงความรู้สึก สีผิวและเพศที่หลากหลาย ฯลฯ
  • สแกนข้อความได้ : สามารถเปิด Note แล้วสแกนข้อความแปลงเป็นตัวอักษรเพื่อนำไปใช้ใน Note ได้เลยทันที แต่ทั้งนี้ ยังไม่รองรับภาษาไทย
  • มีเสียง Siri เพิ่มเติม : สำหรับผู้ที่ชอบใช้คำสั่งเสียงผ่าน Siri ก็สามารถเพิ่มเสียงแบบที่ 5 ได้ ซึ่งจะเป็น Siri ที่มีเสียงภาษาอังกฤษ สำเนียงอเมริกัน
  • ป้องกันการใช้งาน AirTag : iOS 15.4 กำหนดให้ใช้งาน AirTag ในการจับคู่เพื่อติดตามสิ่งของเท่านั้น เพื่อป้องกันการใช้งานผิดวัตถุประสงค์ เช่น ใช้ติดตามบุคคล ซึ่งจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
  • ปุ่ม SOS : หาต้องการใช้ปุ่มโทรฉุกเฉินในสถานการณ์ต่างๆ ให้กดปุ่มปรับเสียงที่ด้านข้างเครื่องไอโฟนค้างไว้
  • ฟีเจอร์ Tap to Pay : การใช้งานที่สามารถนำไอโฟนไปแตะเครื่องสแกนรับเงิน เพื่อใช้จ่ายสินค้าและบริการรูปแบบต่างๆ โดยไร้เงินสดได้ แต่ฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดให้ใช้บริการในประเทศไทย
  • ปุ่ม SharePlay : สามารถใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ที่รองรับ SharePlay ควบคู่ไปกับการใช้งานการสนทนาผ่าน FaceTime ได้ ทำให้สามารถรับชมความบันเทิงควบคู่ไปด้วยได้

ลูกเล่นต่างๆ ที่ยกตัวอย่างมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ iOS 15.4 เท่านั้น หากใครต้องการใช้งานเต็มรูปแบบ อย่าลืมตรวจสอบว่า iPhone ที่เราใช้นั้น รองรับการอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่หรือไม่ เพื่อที่จะได้ใช้งานฟีเจอร์การปลดล็อกใบหน้าไอโฟนแบบใส่แมสก์ ซึ่งน่าจะช่วยให้หลายคนคลายกังวลมากขึ้น เมื่อต้องหยิบไอโฟนขึ้นมาปลดล็อกใบหน้าเพื่อใช้งาน ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19