84,000 พระพุทธปฏิมา คืนลมหายใจ…พุทธศาสนาสู่แดนพุทธภูมิ




เพราะเหตุบังเอิญไม่มีในโลก…! ดูจะเป็นความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อภาพความเชื่อมโยงของมนุษย์ โลก และธรรมชาติ เริ่มเป็นพลวัตรหมุนเวียนกลับมาเกี่ยวข้องกันอย่างไม่น่าเชื่อหลายปีก่อน ดร.บี.เค. โมดี ประธานกรรมการ Spice Global บริษัทอินเดียที่มีฐานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ ลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างภาพยนตร์ซีรีส์ “Buddha” หรือ พระพุทธเจ้า ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติของศาสดาผู้ยิ่งใหญ่ออกสู่สายตาคนทั้งโลก ด้วยแรงบันดาลใจจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้าและทำให้ “Himanshu Soni” หรือกากัน มาลิค ดาราหนุ่มจากฮอลลีวูด ซึ่งรับบทเป็นพระพุทธเจ้า กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

วันนี้ มาลิคในเพศสมณะ ฉายา “พระกัน อโสโก” กำลังเริ่มต้นมหากุศลครั้งใหญ่ในการนำพระพุทธศาสนาจากดินแดนสุวรรณภูมิ กลับไปสู่ดินแดนพุทธภูมิ

นิว นอร์มอล…ไทยรัฐ มีโอกาสสัมภาษณ์ ท่านกากัน มาลิค ถึงกิจกรรมมหากุศลที่ท่านกำลังเริ่มต้น

“อาตมามาบวชที่เมืองไทย เพราะคุ้นเคยกับโยมแนท (ว่าที่ร้อยเอกณัฏฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล) ซึ่งเป็นไวยาวัจกรของวัดธาตุทองอยู่แล้ว เมื่อได้เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์จริงๆ แบบที่ไม่ใช่การแสดง ความรู้สึกมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง” ท่านมาลิค เล่าถึงที่มาของการตัดสินใจบวชในเมืองไทย

“ครั้งหนึ่งอาตมาเคยถามท่านดาไล ลามะ ท่านนับถือศาสนาอะไรครับ ท่านตอบว่า ศาสนาแห่งความรักและความเมตตา นั่นคือสิ่งที่มีพลังและสำคัญที่สุดที่มนุษย์เราต้องการในทุกวันนี้ และเป็นสิ่งที่หายไปในสังคม อาตมาฝึกจิตใจทุกวัน ให้มีความกรุณา ความรัก ความเมตตาต่อทุกคน การรับใช้เพื่อนมนุษย์คือสิ่งที่สำคัญมาก คุณจะ เป็นชาวพุทธอย่างไม่สมบูรณ์ หากไม่ช่วยเหลือผู้อื่น พระพุทธเจ้าท่านทำอะไร ไม่เกี่ยวว่าศาสนาไหน หรือพระเจ้าองค์ไหนเลย ท่านทำเพื่อมนุษยชาติ ท่านไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อตัวเอง ท่านอยู่เพื่อผู้อื่นนั่นคือเหตุผลที่ทำให้อาตมาอุทิศตนเพื่อพระองค์ เพื่อพระพุทธศาสนา”

การอุทิศของพระมาลิคคือการเริ่มต้นกิจกรรมมหากุศลครั้งใหญ่ ร่วมกับ มูลนิธิไตรรัตนภูมิ ในการสร้างพระพุทธรูป 84,000 องค์ เพื่อไปประดิษฐานตามสถานที่ต่างๆในอินเดีย ซึ่งเป็นแดนเกิดของพุทธศาสนา เป็นการคืนลมหายใจพระพุทธศาสนาสู่แดนพุทธภูมิ

“อาตมาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะมีความสุขจากภายใน ด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น มันไม่เกี่ยวว่าคุณจะรวยล้นฟ้า คุณจะมีเงินเท่าไหร่ มีเกียรติหรือมีชื่อเสียงอย่างไร หรือมีทรัพย์สินทางโลกมากมายขนาดไหน ทุกอย่างท้ายที่สุดจะต้องกลับสู่ธรรมชาติ คุณไม่สามารถเอาอะไรไปได้เลย สิ่งที่เอาไปได้อย่างเดียวคือบุญกุศล แล้วเราจะสร้างบุญได้อย่างไร วิธีเดียวคือรับใช้ผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่น นั่นคือเหตุผลที่อาตมาตัดสินใจร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ร่วมก่อตั้งมูลนิธิไตรรัตนภูมิ แต่เป็นความตั้งใจที่จะฟื้นฟูพุทธศาสนาในอินเดีย สร้างรากฐานที่มั่นคง นำทางชาวอินเดียให้ได้พบพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง” พระกากัน มาลิค เล่าด้วยความปีติ

ขณะที่ ว่าที่ ร.อ.ณัฏฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในการก่อตั้งมูลนิธิไตรรัตนภูมิ เล่าว่า เริ่มแรกผมรู้จักกับท่านกากัน ได้เดินทางไปกับท่าน พอกลับมาเมืองไทยก็เริ่มเป็นสะพานบุญ ทางโน้นต้องการอะไร ทางนี้มีใครอยากบริจาค เริ่มต้นเลยคือมีการทำพระพุทธรูปเพื่อนำไปมอบให้เป็นที่ระลึกที่อินเดีย 200 องค์ เป็นพุทธศิลป์แบบไทย โดยฝีมือปั้นของนักโทษอุกฉกรรจ์ในโครงการกำลังใจ ในพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราช สาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โดยนัยของการปั้น เพื่อช่วยขัดเกลาจิตใจพวกเขา บางคนปั้นไปน้ำตาไหลไป บางคนได้รับโทษประหารชีวิตแต่ปั้นพระพุทธรูปออกมาได้สวยงาม

โครงการปั้นพระพุทธรูปนี้ชื่อว่า “ปั้นดินให้เป็นบุญ” โดยการนำของอาจารย์อรสม สุทธิสาคร นักเขียนและศิลปินแห่งชาติ นักโทษจะปั้นพระพุทธรูปขึ้นมา และจะประกวดกันว่าพระพุทธรูปองค์ไหนสวยที่สุด แล้วเอาองค์นั้นมาหล่อเพื่อที่จะให้ประชาชนร่วมทำบุญ สร้างพระพุทธรูปองค์นี้เพื่อนำไปประดิษฐานตามโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ บังเอิญมีรุ่นพิเศษที่ทำไว้ 51 องค์เพื่อที่จะส่งให้ดินแดนพุทธภูมิ หรืออินเดีย

“มันคลิกตรงที่ว่า ผมรู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร คือผมต้องมอบพระพุทธรูป (51 องค์ ในลอตนักโทษปั้น) ให้สถานที่ที่เขาจำเป็นต้องใช้จริงๆ ผมจะไม่ส่งมอบพระพุทธรูปไปในสถานที่ที่เขามีพระพุทธรูปอยู่แล้ว ผมก็เลยประสานงานกับท่านศรีราชกุมาร บาโดเล รมว.ยุติธรรมและช่วยเหลือพิเศษ ผ่านคุณกากัน ในขณะนั้นผมก็บอกท่านว่าอยากส่งพระพุทธรูปเหล่านี้ไปยังสถานที่ต่างๆทั่วรัฐมหาราช แต่มีข้อแม้ว่า สถานที่ที่จะตั้งพระพุทธรูป คนเหล่านั้นจะต้องสวดมนต์จริง ทำพิธีกรรมจริง บูชาจริงเท่านั้น” โยมแนทเล่าถึงที่มาของการปั้นพระพุทธรูปนำไปอินเดีย

และไม่น่าเชื่อมีผู้แจ้ง ความจำนงขอรับพระพุทธรูป เข้ามาอย่างล้นหลาม จนพระจำนวน 51 องค์ไม่เพียงพอ คุณกากันซึ่งมีความประทับใจในการปั้นพระพุทธรูปของไทยก็เลยมีไอเดียว่าเราจะต้องทำเพิ่ม ซึ่งเขาเชื่อว่าถ้าเขาสามารถส่งมอบ 84,000 องค์ได้ ก็จะทำให้ศาสนาพุทธเจริญงอกงามมากกว่านี้ ส่วนสาเหตุที่ต้องสร้าง 84,000 องค์ ซึ่งมาจากตัวเลขที่พระเจ้าอโศกสร้างสถูปไว้ คุณกากันมีปณิธานชัดแจ้งว่า จะดำเนินตามอุดมการณ์ของพระเจ้าอโศกมหาราช พอมาบวชก็ได้ฉายาว่า “อโสโก”

โยมแนทบอกว่า เมื่อทุกอย่างมาถึงจุดที่เราต้องทำ คือสร้างพระพุทธรูป 84,000 องค์ไปให้ที่อินเดีย ก็ถือเป็นความท้าทาย พระพุทธรูป เป็นตัวแทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การนำพระองค์กลับไปในแดนเกิดของพุทธศาสนา เมื่อกลับไปแล้วคนอินเดียเขาได้สวดมนต์ ก็อาจจะซาบซึ้งในพระพุทธศาสนาและสามารถนำไปบอกคนอื่นต่อได้ว่าพระพุทธศาสนาดีอย่างไร นี่แหละคือสิ่งที่เราคิดว่าจะทำให้พระพุทธศาสนาแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และเราไม่ได้หยุดแค่นี้เพราะพระรัตนตรัย คือแก้ว 3 ประการ สิ่งที่เราทำนอกจากพระพุทธแล้ว ในส่วนของพระธรรม คือการเผยแพร่ศาสนา ส่วนพระสงฆ์คือการให้ชาวพุทธทั้งในและต่างประเทศเข้ามาเรียนรู้หลักธรรมคำสอนด้วยการอุปสมบทเพื่อที่จะช่วยเผยแผ่ศาสนาต่อไป.