เปิดประสบการณ์ดินเนอร์พร้อมห้องพัก “Steakation” แพ็กเกจเพื่อคนรักเมนูเนื้อวัวส่งตรงจากออสเตรเลีย




ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คำที่เคยแพร่หลายในช่วงปี 2007 อย่างคำว่า Staycation ได้ถูกหยิบกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคำนี้เป็นการผสมกันระหว่างคำว่า Stay และ Vacation

การพักผ่อนแบบ Staycation ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการต้อง Work from Home เป็นเวลานาน โดยเป็นการเปลี่ยนที่หลับที่นอน เพื่อรีเฟรชร่างกายให้กลับมาสดชื่นอีกครั้งหนึ่ง แต่ทว่า ถ้าหากต้องการเพิ่มความรีเฟรชให้กับร่างกายขึ้นไปอีก การได้รับประทานอาหารดีๆ สักหนึ่งมื้อใหญ่ก็คงจะดีขึ้นไปอีกไม่น้อยเลย

ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท มีแพ็กเกจชื่อว่า Steakation เป็นบริการดินเนอร์เสิร์ฟด้วยเมนูเนื้อวัวนำเข้าจากออสเตรเลีย มาพร้อมกับห้องพัก 1 คืน 2 คน แบบ Club Room ขนาดห้อง 35-37 ตารางเมตร ตัวห้องพักตกแต่งในสไตล์ไทยโมเดิร์น ให้ความรู้สึกแบบ Feel like home ตัดกับความวุ่นวายของย่านนานา นอกจากนี้ ห้องพักใช้ระบบ Montion sensor in the room จึงไม่ต้องเอาการ์ดห้องพักเสียบไว้หน้าประตูเหมือนที่คุ้นชินเวลาที่เข้าพักตามโรงแรมอื่นทั่วไป

จุดที่น่าสนใจ ของแพ็กเกจนี้อยู่ตรงที่ดินเนอร์ที่ห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งรังสรรค์เมนูโดยเชฟมาโนช พึ่งพร้อม หัวหน้าเชฟแห่ง Market Café by Khao ในเครือ “ข้าว” แบรนด์ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์

เมนูอาหารของแพ็กเกจ Steakation มีเป็นเมนูของคาว 4 เมนู และของหวานอีก 1 เมนู ประกอบไปด้วย

เนื้อออสเตรเลียแดดเดียว ทานคู่กับหมกเห็ด
Sun-dried Australian Beef

เมนูนี้เชฟเลือกใช้เนื้อส่วนใบบัว ผ่านการดรายเอจเป็นเวลา 2 วัน เอามาสไลด์ ปรุงด้วยความร้อนต่ำให้สุกอย่างช้าๆ จนทำให้เนื้อมีความเปื่อย มีความนุ่ม จากนั้นเอาไปทอด เพียงแต่ว่า เมนูนี้ควรรับประทานคู่กับหมกเห็ดที่เสิร์ฟมาคู่กัน เพราะตัวเนื้อแดดเดียวมีความเค็มสูง

พล่าเนื้อย่าง
Spicy Australian Beef salad with lemongrass and mint

เนื้อส่วนที่หยิบมาเป็นเนื้อส่วนซี่โครง ไม่มีเส้นเอ็นให้รำคาญใจ สิ่งที่น่าสนใจบนอาหารจานนี้ อยู่ตรงที่เนื้อถูกสไลด์มาพอดีคำ ไม่เหนียว เคี้ยวง่าย นุ่มละมุนลิ้น รสชาติเข้มข้น และมีลายหินอ่อนเห็นชัดมาก

ส่วนการหมักเนื้อ เป็นการหมักด้วยวัตถุดิบขั้นพื้นฐานอย่างพริกไทยและเกลือ แล้วเพิ่มเติมด้วยข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ย่างไฟเบาบนเตาถ่าน

แกงรัญจวนเนื้อสไลด์
Australian Beef Curry seasoned with fermented shrimp paste chilli sauce

แกงรัญจวนถ้วยนี้ ใช้เนื้อสันคอ ซึ่งเชฟทำออกมาได้ดีทำให้เนื้อไม่เหนียวมาก แต่ก็ยังคงเคี้ยวได้ยากพอสมควร เนื้อนำมาสไลด์ค่อนข้างบาง ซุปเป็นการผสมกันระหว่างซุปแบบชาบูกับน้ำพริกกะปิ เวลาซดยังได้กลิ่นหอมกะปิที่ชัดเจน แต่ในภาพรวมแล้ว ชอบเมนูนี้น้อยที่สุดจากทั้ง 4 เมนู เพราะหนักที่รสเปรี้ยวไปสักหน่อย

พะแนงเนื้อย่างโบราณ ทานคู่กับข้าวห่อใบตอง
Panaeng curry with Australian Beef serve with steamed rice wrapped in panda leaf

จานนี้เป็นทีเด็ดที่สุดของ Steakation เลยก็ว่าได้ เริ่มจากการใช้เนื้อสันนอก ตัวเนื้อเห็นลายหินอ่อนของเนื้อชัดเจน ลายมีความสวยงาม ก่อนนำมาปรุงผ่านการดรายเอจมาเป็นเวลาหนึ่งวัน หลังปรุงเสร็จ เชฟได้ใช้ความร้อนเผาที่จาน เพื่อให้จานเกิดอุณหภูมิ เป็นการรักษาความร้อนของเนื้อ แล้วราดด้วยซอสพะแนง

ส้มฉุน
Assortment of seasonal fruits in bitter orange syrup topped with crispy condiments

ของว่างสมัยโบราณถ้วยนี้ เสิร์ฟออกมาอย่างหรูหรา หนึ่งคำที่ตักเข้าปากมีหลายรสชาติ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โรยด้วยหอมเจียวและขิงอ่อนซอย

เชฟมาโนช เล่าให้ฟังในช่วงท้ายหลังจากเสิร์ฟอาหารทั้ง 5 เมนูครบว่า จุดประสงค์ของทั้ง 4 เมนู เป็นความต้องการเสิร์ฟอาหารไทยด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง โดยเนื้อออสเตรเลียที่นำมาเสิร์ฟทุกเมนู เป็นเนื้อวัวที่มาจากสภาพแวดล้อมในการเลี้ยงที่เป็นธรรมชาติ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี มีความเข้มข้น ให้รสสัมผัสที่ละมุนลิ้น แต่ยังคงกลิ่นเนื้อวัวสไตล์ออสเตรเลียเอาไว้อย่างครบถ้วน

เชฟมาโนช พึ่งพร้อม (คนซ้าย)

นอกจากนี้ เนื้อแต่ละส่วนที่นำมารังสรรค์เมนูทุกจาน ก็เป็นเนื้อวัวส่วนที่อาหารฝรั่งเศสและอาหารอิตาลีนำมาใช้ แต่ในครั้งนี้เชฟนำมาปรุงในลักษณะแบบอาหารไทย คงรสชาติแบบอาหารไทย เป็นกิมมิก

แพ็กเกจ Steakation ยังรวมอาหารเช้า All-you-can-eat และใช้บริการ Club Lounge ของโรงแรมได้ตลอดทั้งวัน

สำหรับแพ็กเกจ Steakation ของโรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพ สุขุมวิท ราคาสุทธิอยู่ที่ 5,199 บาท จนถึง 31 มกราคม 2565.