เปิดตำรับ “ยาห้าราก” ถอนพิษช่วยต้านโควิด-19




สมุนไพรหลายชนิดถูกพูดถึงในช่วงการระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะ “ฟ้าทะลายโจร” ที่ดูเหมือนจะเป็นพระเอกในยามที่สถานการณ์การระบาดรุนแรงเข้าขั้นวิกฤติ และยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษาโควิด-19 หาได้ไม่ง่ายนัก

ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ มีการพูดถึง ยาตำรับสมุนไพรห้าราก ว่ามีสรรพคุณในการรักษาโควิด-19 ได้ ทำให้มีการพูดถึง “ยาห้าราก” กันอย่างแพร่หลาย

ยาห้าราก หรือที่บางครั้งเรียกว่ายาเบญจโลกวิเชียร ยาแก้วห้าดวง หรือยาเพชรสว่าง เป็นชื่อตำรับยาเดียวกันทั้งสิ้น

ห้ารากที่เป็นชื่อของยา มาจากรากสมุนไพร 5 ชนิดคือ รากคนทา, รากชิงชี่, รากเท้ายายม่อม, รากมะเดื่อชุมพร และรากย่านาง ซึ่งล้วนมีสรรพคุณแก้ไข้ กระทุ้งพิษ หรือถอนพิษ ในบางพื้นที่จึงเรียกยาสมุนไพรตำรับนี้ว่า “ยาถอนพิษ” ด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขได้จัดตำรับยาห้ารากไว้ในกลุ่มยาแก้ไข้ในบัญชียา จากสมุนไพรที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิมในบัญชียาหลักแห่งชาติ

การศึกษาวิจัยฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่สนับสนุนสรรพคุณของตำรับยาห้าราก มีรายงานในเอกสารวิจัย ระบุว่า ยาห้ารากมีฤทธิ์ลดไข้ จากการศึกษาวิจัยในห้องทดลองพบว่า สารเอทานอลในสมุนไพรยาห้ารากมีฤทธิ์ลดอุณหภูมิกายของหนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้เป็นไข้ โดยที่ขนาด 400 มก./กก. จะมีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดไข้ และที่ขนาด 100 และ 200 มก./กก. จะมีประสิทธิภาพในการลดไข้ได้เทียบเท่ากับยาแอสไพริน

ฤทธิ์ต้านการอักเสบ สารสกัด 95% เอทานอลจากตำรับยา มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างไนตริกออกไซด์ (NO) ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ ฤทธิ์แก้ปวด การทดสอบฤทธิ์แก้ปวดของสารสกัดจากตำรับยาห้าราก ขนาด 25-400 มก./กก. ในหนูแรทที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดอาการปวดด้วยวิธี hot-plate, tail-flick และ acetic acid-induced writhing พบว่า สารสกัดจากตำรับยาที่ขนาด 400 มก./กก. เท่านั้น มีฤทธิ์แก้ปวดได้

นอกจากนี้ การวิจัยยังพบว่า ยาห้าราก มีฤทธิ์ต่อการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด, ฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรีย, ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ, ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย, ฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินและเอนไซม์ไทโรซิเนส, ฤทธิ์ต้านการแพ้ พบว่าสารสกัดจากรากคนทามีฤทธิ์ต้านการแพ้ดีที่สุด รองลงมาคือสารสกัดจากรากมะเดื่ออุทุมพร

จากการศึกษาดังกล่าว และการถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ล่าสุดกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้ศึกษาการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของยาห้ารากพบว่า สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหลอดทดลองได้

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยว่า จากกรณีที่มีกระแสความต้องการใช้สมุนไพรตำรับยาห้าราก และยาตำรับประสะเปราะใหญ่ เพื่อใช้ในการช่วยรักษาหรือบรรเทาอาการจากการติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง กรมวิทยา ศาสตร์การแพทย์ โดยสถาบันวิจัยสมุนไพร และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ได้ศึกษาฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเริ่มต้นจากสายพันธุ์เดลตาของตำรับยาห้ารากและตำรับยาประสะเปราะใหญ่ โดยได้รับอนุเคราะห์ตำรับจากสมาคมเวชกรรมไทย นำสารสกัดยาทั้ง 2 ตำรับ ในขนาดที่ไม่มีความเป็นพิษในเซลล์เพาะเลี้ยง มาบ่มกับเชื้อไวรัสในหลอดทดลอง และนำเชื้อไวรัสไปทดสอบในเซลล์เพาะเลี้ยง ผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่า ตำรับยาห้ารากที่สกัดด้วยน้ำมีค่าการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา 96.23% ที่ระดับความเข้มข้น 10 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร (มก./มล.)

คุณหมอศุภกิจบอกด้วยว่า ส่วนยาตำรับประสะเปราะใหญ่ที่สกัดด้วยน้ำมีค่าการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา 76.56% ที่ความเข้มข้น 10 มก./มล. ส่วนตำรับยาประสะเปราะใหญ่ที่ทำการสกัดด้วยตัวทำละลายที่เป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น 50% มีค่าการยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา 88.70% ที่ความเข้มข้น 2.5 มก./มล.

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถหาซื้อยาตำรับทั้ง 2 มารับประทานเองได้ตามอาการของโรค แต่ควรรับประทานตามข้อบ่งใช้และขนาดที่ระบุตามรายละเอียดในบัญชียาหลักแห่งชาติ ส่วนการนำไปใช้สำหรับรักษาโรคโควิด-19 ควรรอผลการศึกษาวิจัยให้แน่ชัดเสียก่อน เพื่อความปลอดภัย ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะเร่งวิจัยและพัฒนาสมุนไพรทั้ง 2 ตำรับ ทั้งในด้านการศึกษาการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันก่อนการติดเชื้อไวรัส ฤทธิ์และกลไกการออกฤทธิ์ ในการต้านการติดเชื้อไวรัส ตลอดจนศึกษาความปลอดภัยของยาตำรับ เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุน การใช้ยาสมุนไพรสำหรับใช้เป็นยารักษาโรคโควิด-19 ต่อไป.