เจาะก่อนเปิดตัว MERCEDES-BENZ NEW EQS SUV 2022 เอสยูวีไฟฟ้า 7 ที่นั่ง ระยะทำการ 550 กิโลเมตร




ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2020 Mercedes-Benz AG. ได้เปิดเผยแผนการที่จะเพิ่มรถเอสยูวีไฟฟ้าเข้าสู่พอร์ตโฟลิโอต่อจากซาลูนไฟฟ้ารุ่น EQS รวมทั้งรุ่นท็อปของ Mercedes EQS ที่แรงกว่าเดิมในรูปแบบ AMG EQS ล่าสุด แบรนด์ตราดาวกำลังเตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ซึ่งมีราคาแพง ไฮเทคและหรูหราสุดขั้ว และนี่คือทุกสิ่งที่เกี่ยวกับรถรุ่นนี้ก่อนการเปิดตัวในวันที่ 19 เมษายน 2565

Mercedes EQS SUV แตกต่างไปจาก Mercedes EQA และ Mercedes EQB มันคือเอสยูวีไฟฟ้าที่ไม่ใช่รุ่นดัดแปลงของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ICE ที่คล้ายกับ GLS SUV แพลตฟอร์มใหม่หมดหัวจดท้ายออกแบบมาสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่โดยเฉพาะ แล้วมันใหญ่แค่ไหนในเมื่อค่ายดาวสามแฉกมีรถยักษ์อย่าง GLS-Class และ G-Class ที่ตัวโตราวกับยักษ์ปักหลั่น การออกแบบใหม่ตั้งแต่โครงสร้างแชสซีไปจนถึงการดีไซน์ตำแหน่งติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ EQS SUV มีไดนามิกในแบบของตัวเอง ด้วยสัดส่วนที่ไม่สามารถทำได้สำหรับผลิตภัณฑ์ยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน รายงานของ Autocar อ้างว่า ความยาวของ EQS SUV จะอยู่ที่ 5,160 มิลลิเมตร เปรียบเทียบกับความยาวของเอสยูวีไซส์ใหญ่อย่าง GLS350d CKD ที่ยาว 5,205 มิลลิเมตร ก็พอจะมองออกว่าขนาดของ EQS SUV จะพอฟัดพอเหวี่ยงกับ GLS เลยทีเดียว 

Gorden Wagener หัวหน้าเจ้าหน้าที่ออกแบบของ Mercedes-Benz AG ให้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการออกแบบ Mercedes EQS SUV และอธิบายว่า SUV ไฟฟ้ารุ่นเรือธงที่กำลังจะถูกเปิดตัวในอีกไม่กี่วันนับต่อจากนี้จะดูแตกต่างจาก Mercedes GLS อย่างไรก็ตาม EQS SUV จะเป็นรถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้าคันโต มีการบูรณาการมากกว่าเดิมในหลายจุดเนื่องจากใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า หลักการด้านอากาศพลศาสตร์หรือแอโรไดนามิกถูกเน้นหนักมากขึ้น มันต้องลู่ลมเพื่อลดการใช้พลังงานที่ค่อนข้างสิ้นเปลืองในการต้านทานกระแสลมขณะขับเคลื่อน ดูล้ำยุคมากขึ้น ดังนั้นมันจะเป็น SUV แห่งอนาคตที่แตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์รุ่นอื่นของ Mercedes-Benz Wagener กล่าว “ตามรายงาน Auto Express กระจกบังลมจะยืดออกไปข้างหน้า ด้วยองศาของความลาดเอียงที่มากกว่า GLS เช่นเดียวกับ EQS ความโค้งมนช่วยทำให้ลู่ลมและ EQS SUV มีสัดส่วนที่โค้งอย่างสอดรับกับค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศที่ดี” เขากล่าวเสริม ไม่ใช่ว่าคุณลักษณะ EQS ทั้งหมดจะปรากฏในรุ่น SUV เช่น เส้นสไตล์ ซึ่ง “มันจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันโตที่วิ่งไม่เร็วเท่า Super SUV บางรุ่นที่เผาผลาญเชื้อเพลิง” Mercedes EQS SUV จะมีรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวล้ำไปในอนาคต ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ sci-fi ที่เชื่อมต่อกันผ่านแถบไฟดีไซน์เต็มความกว้าง กันชนทรงเตี้ย กระจังหน้าสีดำแบบปิดทึบ ระยะห่างจากพื้นไม่ได้สูงมากมายอะไร ขนาดความยาวและฐานล้อที่ลงตัวในสไตล์ของ SUV ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง แนวหลังคาค่อยๆ ลาดเอียงลงไปยังส่วนท้าย และกระจกด้านหลังที่ทำมุมสูงชัน จะทำให้รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ ดูสปอร์ตและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่สำคัญมันถูกสร้างให้มีขนาดใหญ่กว่า BMW iX

แผงพลาสติกสีดำเงาที่ทำหน้าที่เป็นกระจังหน้าแบบ faux มีแนวโน้มที่จะปรับแต่งได้ด้วยรูปแบบดาว 3 มิติ พื้นผิวแผงสีดำไม่เพียงรองรับการตกแต่ง แต่ยังซ่อนเซนเซอร์ต่างๆ อย่างเรียบร้อย ซึ่งมีทั้ง LiDAR, เรดาร์, อัลตราซาวนด์ และกล้องมองภาพรอบคัน ที่จำเป็นสำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับ สำหรับ EQS ตัวถังซาลูนสี่ประตู เสา A จะโค้งไกลออกไปเพื่อพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง Mercedes EQS SUV ติดตั้งไฟหน้าแบบดิจิทัล พร้อมไฟ DRL ที่มีไฟสามจุดเชื่อมต่อกันด้วยแถบไฟ กระจังหน้าด้านล่างมีลักษณะโค้งมน ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับ Mercs ทุกรุ่น เสริมด้วยมือจับประตูแบบฝังเรียบสนิทไปกับตัวถัง เช่นเดียวกับ EQS ที่มือจับประตูแบบฝังจะมีไฟแบล็กไลต์ เมื่อคุณเข้าใกล้รถ มือจับที่เปิดประตูจะยื่นออก และส่องสว่างเพื่อทำให้มองเห็นได้อย่างถนัดตา EQS SUV จะมีออปชั่นล้อขนาด 22 นิ้ว ในรุ่นสูงสุด รุ่นต่ำกว่าใส่ล้อขนาด 20 หรือ 21 นิ้ว ส่วน Mercedes-Maybach EQS SUV ที่จะออกมาในปี 2023 จะแตกต่างจาก EQS SUV ซึ่งน่าจะมีให้เลือกในสีตัวถังแบบทูโทนที่คุ้นเคย 

การออกแบบขั้นสุดท้ายของรูปทรงด้านข้างจะแตกต่างจากที่เห็นในวิดีโอทีเซอร์ ซึ่งเผยแพร่ในระหว่างการอัปเดตกลยุทธ์และแผนงานในอนาคตของ Mercedes-Benz เมื่อเดือนตุลาคม 2020 ในส่วนของรถ EQS SUV ต้นแบบล่าสุดเผยให้เห็นกระจกบานใหญ่ด้านหลังที่มีช่องระบายอากาศและเส้นคาดกลางที่ค่อนข้างตรงกว่าอย่างชัดเจน แสดงให้เห็นว่า EQS SUV จะอยู่ใกล้กับ GLS SUV มากกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก

ด้านหลังของ EQS SUV จะไม่ตั้งตรงเหมือน GLS ประตูท้ายแบบครอสโอเวอร์ที่ทันสมัย ทำงานด้วยไฟฟ้า พร้อมกระจกบังลมที่เอนไปด้านหน้าอย่างเห็นได้ชัด ภาพถ่ายในช่วงวิ่งทดสอบแบบพรางตัวด้วยสติกเกอร์ลายเส้น เผยให้เห็นว่ารายละเอียดของไฟท้ายจะอยู่ในรูปแบบไฟ 3 มิติ ดีไซน์โค้ง เช่นเดียวกับใน EQS แทนที่จะใช้ขอบโครเมียมเหมือนใน GLS คาดว่าจะมีแถบแสง LED ที่เชื่อมต่อระหว่างไฟท้ายทั้งสองข้างด้วยสไตล์ที่ล้ำสมัย

ไฟหน้าแบบดิจิทัลไลต์ สามารถฉายเครื่องหมายบอกทางหรือสัญลักษณ์เตือนบนถนนได้ โมดูลไฟที่มีไฟ LED อันทรงพลังสามดวงในกรอบไฟแต่ละข้าง โดยมีความละเอียดรวมกันมากกว่า 2.6 ล้านพิกเซล ไฟหน้าแบบใหม่ที่ฉลาดขึ้นและมีกำลังในการส่องสว่างไกล 650 เมตรทำงานร่วมกับระบบนำทางและคำนึงถึงผลกระทบกับรถที่แล่นสวนมาเมื่อเพิ่มกำลังในการส่องสว่างบนถนนที่ปราศจากแสงไฟ 

เช่นเดียวกับ GLS SUV รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อย่าง EQS SUVจะจำหน่ายในรุ่น AMG ที่เพิ่มสีสันด้วยรุ่น AMG EQS SUV กระจังหน้าสีดำพิเศษพร้อมซี่แนวตั้งที่ประทับตราดาวสามแฉกด้วยโครเมียม การสร้างตราสินค้า “AMG” แบบบูรณาการ ช่องอากาศแบบ “A-wing” ของ AMG สปลิตเตอร์ด้านหน้าสีดำมันวาวพร้อมขอบโครเมียม ช่องดักอากาศพร้อมครีบ ม่านอากาศที่ตกแต่งด้วยโครเมียม ล้อขนาด 23 นิ้ว ในดีไซน์ที่โดดเด่น คาลิปเปอร์เบรกสีแดง กาบบันไดข้าง AMG สีดำเงา อาจเสริมสไตล์ด้วยดิฟฟิวเซอร์พร้อมครีบตามแนวยาวและสปอยเลอร์หลังที่ใหญ่ขึ้น (เมื่อเทียบกับ EQS SUV ทั่วไป) เพื่อไดนามิกในการขับที่ดีขึ้น

Mercedes EQS SUV มาพร้อม MBUX Hyperscreen ซึ่งเป็นตัวเลือกเสริมแดชบอร์ดดิจิทัลขั้นสูงที่เปิดตัวใน EQS พื้นผิวกระจก Gorilla Glass ทรงโค้งขนาดใหญ่ ขยายเกือบตลอดความกว้างของแดชบอร์ด มันมีจอแสดงผลสามจอ (จอแรกแสดงผลสำหรับคนขับ กับจอแสดงผลส่วนกลาง และจอแสดงผลสำหรับผู้โดยสาร ตาลายกันเลยทีเดียว) ส่วนด้านหลัง จอแสดงผลส่วนกลางและสำหรับผู้โดยสารแบบ OLED ระบบปฏิบัติการ MBUX เวอร์ชันล่าสุดกับจอภาพ Hyperscreen พร้อมฝาครอบกระจกโค้ง 3 มิติแบบเต็มความกว้าง (56 นิ้ว) จอแสดงผลแบบฝังเรียบทั้งสามจอที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เหนี่ยวนำประสบการณ์การใช้งานในรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารูปแบบใหม่ จากการออกแบบในอนาคตมาสู่ผู้ใช้ เกือบทุกฟังก์ชั่นอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้ว ตั้งแต่ความบันเทิงหลัก ไปจนถึงการเชื่อมต่อ ระบบนำทาง เบาะนวด การจัดการพลังงาน และอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน จอแสดงผล OLED สำหรับผู้โดยสารขนาด 12.3 นิ้ว เล่นเนื้อหาวิดีโอได้ทุกที่ทุกเวลา และจะหรี่ลงโดยอัตโนมัติหากคนขับกำลังดูเนื้อหาในขณะนั้น ด้วยอนาคตของการขับเคลื่อนที่จะกลายเป็นอิสระอย่างค่อยเป็นค่อยไป ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Mercedes-Benz กำลังพัฒนารูปแบบต่างๆ ของความบันเทิงในรถยนต์ในขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยที่ต้องควบคู่กันไปตามกฎหมายจราจร 

Vera Schmidt หัวหน้าแผนกออกแบบดิจิทัลขั้นสูงของ Mercedes-Benz ให้คำแนะนำว่า MBUX Hyperscreen เป็น “ก้าวสำคัญ” ในการผสมผสานการออกแบบระบบอนาล็อกและดิจิทัลผนวกเข้าด้วยกัน “การออกแบบที่เรียบง่ายและชัดเจนของจอภาพ Hyperscreen และจุดยึดที่แข็งแกร่งเชื่อมติดกับแผงแดชบอร์ดทำให้ใช้งานง่ายและตรงไปตรงมา” แพ็กเกจ MBUX High-End Rear Seat Entertainment Plus ช่วยให้เจ้าของรถพร้อมคนขับไม่พลาดการติดต่อ จอแสดงผลขนาด 11.6 นิ้ว 2 จอ พร้อมระบบควบคุมแบบสัมผัสที่ด้านหลังของพนักพิงศีรษะทั้งสอง แนบด้วยทางเลือกเพิ่มเติมกับแท็บเล็ตด้านหลังในระบบ MBUX พร้อมใช้งานทุกครั้งที่สัมผัสหน้าจอ

วัสดุพรีเมี่ยมเป็นเรื่องที่ Mercedes-Benz ให้ความสำคัญ เจ้าของ EQS SUV สามารถเลือกการผสมสีของวัสดุตกแต่งภายในได้เจ็ดแบบ มีการผสมผสานระหว่างวัสดุแบบดั้งเดิม เช่น หนังอย่างดีและไม้แท้ กับวัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น ขอบคิ้วไฮบริดที่ทำจากแมกโนเลียและสแตนเลสบางเฉียบ ไม้มีรูเล็กๆ ที่มีรูปร่างเหมือนโลโก้แบรนด์ ตัดด้วยเลเซอร์ EQS SUV จะมีให้เลือกทั้งในรุ่น 5 และ 7 ที่นั่ง โดยรุ่น 7 ที่ันั่ง จะมีที่นั่งแถวที่สามแบบแยกส่วน พื้นที่เก็บสัมภาระสำหรับถุงกอล์ฟสูงสุดสี่ใบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของจำนวนเบาะที่นั่ง

EQS SUV จะมาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษในการฟอกอากาศภายในห้องโดยสารที่เรียกว่า Energizing Air Control Plus ซึ่งช่วยทำให้ห้องโดยสารปลอดจากฝุ่นละออง PM 2.5 ละอองเกสร และสารปนเปื้อนอื่นๆ โดยใช้ถ่านกัมมันต์ผ่านแผ่นกรอง HEPA (แผ่นกรองอากาศอนุภาคขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูง) แผ่นกรอง HEPA จะอยู่ใต้ฝากระโปรงอะลูมิเนียมของรถ SUV ตัวกรองขนาด 23/16/1.6 นิ้ว มีปริมาตรเกือบสามแกลลอน ช่วยลดมลพิษในอากาศภายนอกอาจเล็ดลอดเข้ามา ทำให้เทียบได้กับระดับของบ้านพักและห้องผ่าตัดที่สะอาด ใบรับรอง OFI CERT” ZG 250-1 สำหรับการป้องกันไวรัสและแบคทีเรีย เรียกว่าอนามัยจัดกันเลยทีเดียว ฝากระโปรงหน้าจะยังคงล็อกอยู่ และในกรณีที่จำเป็นต้องเปิด เพื่อเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ จะมีเพียงช่างเทคนิคที่สถานีบริการที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถทำได้ Mercedes-Benz ได้เปิดตัวกลิ่นใหม่ No.6 MOOD mimosa โดยเฉพาะสำหรับ SUV ไฟฟ้าขนาด 7 ที่นั่งที่กำลังจะมาถึง กลิ่นใหม่มีกลิ่นหอมเอิร์ทโทนผสมกับความเย้ายวน

จอแสดงผล Head-Up ที่เพิ่มความสมจริง ภาพไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งน่าจะเป็นจอแสดงผลบนกระจกหน้าที่รองรับ AR ซึ่งพื้นที่แสดงผลอาจเทียบเท่ากับหน้าจอขนาด 77 นิ้วในแนวทแยงมุม นี่อาจเป็นคุณสมบัติเสริม โดยมี HUD ที่ไม่ใช่ AR ขนาดเล็กกว่าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ผู้โดยสารแถวที่สองจะได้สัมผัสกับการตกแต่งภายในแบบดิจิทัลระดับสูงด้วย MBUX High-End Rear Seat Entertainment Plus ในรถยนต์ไฟฟ้า EQS รุ่นซาลูนสี่ประตู คุณลักษณะนี้ประกอบด้วยแผงหน้าจอสัมผัสขนาด 11.6 นิ้ว 2 แผง ติดตั้งบนพนักพิงที่นั่งด้านหน้า ผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes สามารถใช้งานได้จากด้านหลังเช่นเดียวกันผ่านแท็บเล็ตด้านหลังด้วยระบบ MBUX พร้อมแอป Android

EQS SUV มาพร้อมประตูอัตโนมัติ ประตูทั้งสี่บานจะใช้พลังงานไฟฟ้า เปิดและปิดโดยอัตโนมัติ ในกรณีนี้ เมื่อคนขับอยู่ห่างจากรถประมาณ 1.5 เมตร ระบบจะปลดล็อหและประตูด้านคนขับจะเปิดออกโดยอัตโนมัติ เมื่อคนขับเข้าไปข้างในและเหยียบแป้นเบรกแล้ว ประตูคนขับจะปิดโดยอัตโนมัติ นั่นสบายจนแทบจะเป็นง่อยกันเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น คนขับสามารถขยายฟังก์ชั่นการเข้าออกแบบง่ายๆ นี้ไปยังผู้โดยสารแถวที่สอง โดยใช้ MBUX ระบบจะเปิดประตูให้เด็กเข้ามาในขณะที่รถมารับพวกเขาถึงโรงเรียน ผู้โดยสารจะสามารถปิดประตูได้อย่างสะดวกและเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยโดยใช้การทำงานเพียงสัมผัสเดียว

เพื่อให้ EQS เป็น Mercedes SUV ที่เงียบที่สุดเท่าที่เคยมีมา Mercedes-Benz Group มีแนวโน้มที่จะขยายความพยายามในการนำเสนอมาตรการฉนวนป้องกันเพิ่มเติมแก่ลูกค้าด้วย Acoustic Comfort Package แพ็กเกจนี้ ลูกค้าจะได้รับตัวเลือกในการกำหนดค่า EQS SUV ด้วยกระจกบานหน้าต่างลามิเนตและกระจกด้านหลังที่มีประสิทธิภาพด้านการเก็บเสียง ส่งผลให้เสียงลมและเสียงรบกวนรอบข้างลดลงเมื่อรถเคลื่อนที่ การกำหนดค่าที่ตรวจสอบด้วยซันรูฟแบบพาโนรามา มีมาตรการลดเสียงรบกวน แม้จะไม่มี Acoustic Comfort Package เช่น แผ่นบังลม แผ่นปิด และซีล

หลังคาแบบพาโนรามาที่เป็นอุปกรณ์เสริม มาตรการเบี่ยงเบนลมแบบต่างๆ (แผงเบี่ยงลม ฝาครอบ และซีลที่มีรูปทรงที่เหมาะสม) วิ่งได้เงียบในย่านความเร็วสูง แม้จะมีพื้นที่เปิดกว้างของหลังคา

ระบบควบคุมสภาพอากาศขั้นสูง
ระบบควบคุมสภาพอากาศก่อนเข้ารถและระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบเทอร์โมโทรนิก Mercedes EQS SUV ความสะดวกสบายด้านสภาพอากาศในสถานการณ์ส่วนใหญ่ที่มีผู้โดยสาร ระบบควบคุมสภาพอากาศล่วงหน้า สามารถตั้งเวลาออกเดินทาง ปรับตั้งอุณหภูมิห้องโดยสารล่วงหน้าผ่านแอป Mercedes me หรือสั่งงานผ่านจอแสดงผลส่วนกลางของรถ ในกรณีของการอุ่นเครื่อง ระบบควบคุมอุณหภูมิและอากาศก่อนเข้ารถจะไม่เพียงแต่ขยายไปถึงอากาศภายในห้องโดยสารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเบาะนั่งด้วย

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบเทอร์โมโทรนิกเป็นระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบสี่โซน ผู้โดยสารแถวที่สองสามารถตั้งอุณหภูมิด้านข้างแยกกันได้ โดยใช้แผงควบคุมสภาพอากาศเฉพาะ เซนเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศและก๊าซที่เป็นอันตราย จะคอยตรวจสอบคุณภาพอากาศภายนอกรถอย่างสม่ำเสมอ โดยจะเปลี่ยนระบบเป็นโหมดหมุนเวียนซ้ำ หากตรวจพบระดับมลพิษภายนอกที่เพิ่มขึ้น ตัวกรองอากาศที่ใช้ถ่านกัมมันต์ในตัวเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เทอร์โมโทรนิกเป็นคุณสมบัติเสริม อาจมีระบบควบคุมสภาพอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซน พร้อมโหมดหมุนเวียนอัจฉริยะ

Energizing Comfort ไฟตกแต่งตอนกลางคืนในห้องโดยสาร หรือ Active Ambient Lighting การปรับปรุงให้เป็น Active Ambient Lighting ฟังก์ชันใหม่ เปลี่ยนแสงโดยรอบของห้องโดยสารตามโหมดการขับขี่ปัจจุบัน ปรับให้โทนสีตอบสนองเมื่อใช้ระบบควบคุมสภาพอากาศ ระบบสั่งงานด้วยเสียง หรือคุณสมบัติอื่นๆ ของรถ ซึ่งควบรวมอยู่ในระบบช่วยเหลือผู้ขับ เพื่อเสริมการแจ้งเตือนด้วยการเตือนเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ 

ระบบเสียง Dolby Atmos
ระบบเสียงของ EQS SUV จะมาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสียงเพิ่มพื้นที่ ความลึก และความชัดเจนให้กับดนตรี เพื่อให้ผู้ฟังได้รับประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ เช่นเดียวกับ EQS ทำให้ลูกค้าที่เน้นความสะดวกสบายและต้องการความสงบในระหว่างเดินทาง เมื่อใช้โปรแกรม ‘Energizing Nature’ ที่เล่นเสียงธรรมชาติที่สงบเงียบ (ป่า ทะเล ฝน ฯลฯ) เพื่อการพักผ่อน

Wagener บอกเป็นนัยว่า Mercedes EQS SUV จะไม่มีกระจกมองข้างแบบดิจิทัลที่ใช้ใน Audi e-tron SUV  สำหรับ EQS SUV จะเป็นโมเดลไฟฟ้ารุ่นแรกของโลกที่มีกระจกมองข้างพร้อมระบบเสมือนจริง และตอนนี้ Audi e-tron Sportback ก็มีจำหน่ายเช่นเดียวกัน Wagner บอกกับ Autocar ว่ากระจกมองข้างเสมือนจริงนั้นมีประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์มากกว่า แต่ก็ไม่ใช่แนวคิดที่ฉลาด มันค่อนข้างกินพลังงานมากจนไม่สมเหตุสมผล “โดยเฉพาะในรถยนต์ไฟฟ้า” นักออกแบบรถยนต์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกกล่าว

Mercedes-Benz Group กำลังพัฒนา EQS SUV ในขั้นตอนสุดท้ายบนสถาปัตยกรรมไฟฟ้าเฉพาะแบบที่เรียกว่า Electric Vehicle Architecture หรือ EVA ซึ่งปัจจุบัน เป็นรากฐานของซาลูนไฟฟ้า EQS แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ “นั่งขับหรือโดยสารได้เงียบเป็นพิเศษ” และบรรจุภัณฑ์ภายในที่ชาญฉลาด ปรับพื้นที่มากขึ้นในขนาดที่ใกล้เคียงหรือเล็กกว่า GLS เครื่องยนต์สันดาป คาดว่าระยะฐานล้อจะอยู่ในช่วงเดียวกับซาลูน EQS (126 นิ้ว) การรักษาน้ำหนักรวม (GVW) ของ EQS SUV ให้ต่ำกว่า 3.5 ตัน ถือเป็นความท้าทายในระหว่างการพัฒนา หากน้ำหนักของรถเกินกว่า 3.5 ตัน ลูกค้าในสหภาพยุโรปบางประเทศจะไม่สามารถขับขี่ด้วยใบอนุญาตขับขี่ประเภท B มาตรฐานสำหรับรถยนต์ได้

ระบบกันสะเทือนแบบถุงลม AIRMATIC พร้อมระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ต่อเนื่อง ADS+ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน Mercedes EQS SUV ที่ความเร็วบนทางหลวง ประมาณ 120 กม./ชม. ความสูงของรถ จะลดลงโดยอัตโนมัติ เพื่อลดแรงต้านของอากาศ ระดับความสูงของรถจาก 120 กม./ชม. ขึ้นอยู่กับโหมดการขับ Comfort, Sport, Eco และ Individual เชื่อมโยงการทำงานกับ AIRMATIC พร้อมฟังก์ชั่นรักษาระยะห่างจากพื้นรถให้คงที่ ไม่ว่าน้ำหนักบรรทุกของรถจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการยกความสูงของรถด้วยระบบกันสะเทือนแบบถุงลมที่ความเร็วต่ำในขณะที่ขับผ่านเส้นทางวิบาก

Mercedes-Benz Group ยืนยันว่า มอเตอร์ของแพลตฟอร์ม EVA สามารถให้กำลังสูงสุด 500 กิโลวัตต์หรือ 670 แรงม้า โดยดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ที่มีความจุพลังงานสูงสุด 107.8 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง เนื่องจาก Mercedes EQS SUV จะเป็นรถยนต์เรือธงเอสยูวีไฟฟ้า คาดว่าจะมีกำลัง 245-385 กิโลวัตต์ (328-516 แรงม้า) และมีความเร็วสูงสุดจำกัดที่ 210 กม./ชม. สำหรับ AMG EQS SUV มีกำลังประมาณ 650 ~750 แรงม้า พร้อมฟังก์ชั่นโอเวอร์บูสต์ สำหรับแรงบิดของรุ่นสูงสุดจะอยู่ที่ 950 – 1016 นิวตันเมตร 

Mercedes-Benz แจ้งว่า การใช้งานชุดแบตเตอรี่ที่มีโมดูลเซลล์สูงสุด 12 โมดูล ใน EQS SUV คาดว่าจะมีตัวเลือกชุดแบตเตอรี่สองระดับความจุ รุ่นมาตรฐานอาจมีโมดูลเซลล์ 10 โมดูล และปริมาณพลังงานที่ใช้งานได้ 90 kWh ส่วนรุ่นสูงสุดขยายช่วงโมดูลเซลล์ 12 โมดูล และปริมาณพลังงานที่ใช้งานได้ 107.8 kWh

เคมีเซลล์ของชุดแบตเตอรี่ทั้งสองรุ่น ได้รับการปรับให้เหมาะสม เพื่อความเสถียรในการใช้งาน Mercedes-Benz กล่าวว่า วัสดุที่หายาก เช่น นิกเกิล โคบอลต์ และแมงกานีสในเซลล์แบตเตอรี่ EQS SUV รุ่น 7 ที่นั่งจะอยู่ในอัตราส่วน 8:1:1 ปริมาณโคบอลต์ในเซลล์เหล่านี้จะอยู่ที่ประมาณ 10%

ใน EQS ซาลูน ชุดแบตเตอรี่ 107.8 kWh ทำระยะทาง 784 กม. ในรุ่นมอเตอร์เดี่ยว 450+ และ 672 กม. ในรุ่นมอเตอร์คู่ 580 4MATIC ก้อนแบตเตอรี่ 90 kWh ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน Mercedes-Benz Group ยืนยันว่า ได้วางแผนช่วง WLTP ไว้ที่ประมาณ 600 กม. สำหรับ Mercedes EQS SUV ที่จะช่วยให้เดินทางจากมิวนิกไปยังเบอร์ลิน หรือลอสแอนเจลิสไปยังซานฟรานซิสโกได้โดยไม่หยุดพักชาร์จกระแสไฟฟ้า

ใน EQS รุ่นซาลูน เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ชุดแบตเตอรี่ 107.8 kWh เป็นอุปกรณ์มาตรฐานและให้ค่า EPA-est ถึง 700 กิโลเมตร ในรุ่น 450+ และ 650 กิโลเมตร ในรุ่น 580 4MATIC สำหรับ EQS SUV เฉพาะในสหรัฐอเมริกา มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 107.8 kWh วิ่งไกล 550 กิโลเมตร

Mercedes EQS SUV ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 22 กิโลวัตต์ โดยใช้เครื่องชาร์จในตัว Wall Box และสามารถอัดประจุอย่างรวดเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC 200 กิโลวัตต์ ในสถานีชาร์จเร็ว 500 แอมแปร์ การชาร์จเร็ว 15 นาที เพิ่มระยะทางได้ประมาณ 300 กิโลเมตร สำหรับรถที่ขายในสหรัฐอเมริกาและยุโรป มีระบบการชาร์จแบบรวมหรือ CCS ซึ่งช่วยให้เสียบเครื่องชาร์จ AC และ DC ผ่านการเชื่อมต่อเดียวกันได้ ในญี่ปุ่น EQS SUV มาพร้อมกับระบบชาร์จ Charge de Move หรือ CHAdeMO สนับสนุนการชาร์จแบบสองทิศทาง ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ยานพาหนะของตนเพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับบ้านได้

ลูกค้า Mercedes EQS SUV ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาน่าจะได้รับประโยชน์จากฟังก์ชั่น Plug & Charge ที่สถานีชาร์จหลายแห่ง ทั้งหมดที่จะทำเพื่อชาร์จ SUV ไฟฟ้าก็คือเปิดฝาพับแล้วเสียบที่ชาร์จ สถานีชาร์จจะระบุรถยนต์ที่เชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ และแหล่งจ่ายจะเริ่มป้อนไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่ วิธีการชำระเงินถูกบันทึกไว้ในแอป “Mercedes me Charge” และหักเงินสำหรับการเรียกเก็บเงินโดยอัตโนมัติ ฟังก์ชั่น Plug & Charge ซึ่งทำงานบนมาตรฐาน ISO 15118 จะพร้อมใช้งานในเครือข่ายเครื่องชาร์จแบบเร็ว Electrify America DC ทันทีที่เปิดตัว สำหรับ EQS นั้น Plug & Charge จะเริ่มใช้งานจริงด้วยการเปิดตัวในตลาดในปี 2564 ChargePoint และเครือข่ายการชาร์จ DC อื่นๆ อาจให้ความสะดวกสบายเช่นเดียวกัน ลูกค้า Mercedes EQ จะได้รับประโยชน์จากเครือข่ายที่กว้างขวางของ ChargePoint ที่มีจุดชาร์จสาธารณะ 60,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา

Mercedes-Benz เป็นบริษัทยานยนต์รายแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติระบบที่ถูกต้องในระดับสากล Drive Pilot สามารถควบคุมความเร็ว และทิศทางของรถ นำทางรถให้อยู่ในช่องทางที่ถูกต้องและปลอดภัย สามารถเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเส้นทางและสัญญาณไฟจราจร ป้ายต่างๆ และดำเนินการเท่าที่จำเป็น นอกจากนี้ยังสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์การจราจรที่ไม่คาดคิด เช่น การหลบหลีกหรือการเบรก เซนเซอร์ LiDAR, กล้องที่กระจกหลังและไมโครโฟน, เซนเซอร์ตรวจจับความชื้น และเทคโนโลยีอื่นๆ ทำงานประสานกันเพื่อฟังก์ชั่นการขับขี่อัตโนมัติ เมื่อใช้ร่วมกับข้อมูลระบบนำทางด้วยดาวเทียมสำหรับเส้นทาง เซนเซอร์จะช่วยสร้างแผนที่ HD สำหรับแสดงภาพถนน 3 มิติและสภาพแวดล้อม

Mercedes EQS น่าจะเป็นหนึ่งใน SUV ไฟฟ้าที่หรูหราที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ คุณสมบัติด้านความปลอดภัยแบบแอคทีฟและพาสซีฟยุคใหม่มากมาย เช่น

Belt airbag
Window airbag
Evasive Steering Assist
Active Distance Assist DISTRONIC
Active Steering Assist
Traffic Sign Assist
Active Lane Keeping Assist
Active Lane Change Assist
Active Emergency Stop Assist
Attention Assist
Active Brake Assist with cross-traffic function
Active Blind Spot Assist and exit warning function

ในเดือนธันวาคม 2020 Mercedes-Benz Group ประกาศว่ามีแผนจะผลิต Mercedes EQS SUV ที่โรงงาน Tuscaloosa (แอละแบมา สหรัฐอเมริกา) ตั้งแต่ปี 2022 โรงงานในอเมริกาได้ผลิต GLE, GLE Coupe และ GLS ขนาดเต็ม นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะผลิตชุดแบตเตอรี่ของรถยนต์ Mercedes EQ SUV รุ่นที่ผลิตในสหรัฐฯ ในประเทศอีกด้วย การผลิตแบตเตอรี่จะดำเนินการในเทศมณฑลบิบบ์ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานทัสคาลูซาเพียง 7 ไมล์ Dura Automotive Systems 200,000 ตารางฟุต โรงงานใน Muscle Shoals (Colbert County, Alabama) จะจัดหากล่องหุ้มแบตเตอรี่ที่จำเป็นสำหรับ Mercedes-Benz EVs ที่ผลิตในทัสคาลูซา

ในการประกาศเปิดตัว Concept Mercedes-Maybach EQS SUV เมื่อวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2564 บริษัทได้ยืนยันอีกครั้งว่าการผลิต Mercedes EQS SUV อยู่ในเส้นทางที่จะเริ่มในปีนี้

Mercedes-Benz Group ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับ EQS 350, EQS 400, EQS 420, EQS 450, EQS 500, EQS 580, EQS 53 และ EQS 63 และใช้ชื่อเหล่านี้บางส่วน เราคาดว่า EQS SUV จะมีรุ่นที่คล้ายกัน สำหรับการอ้างอิง ขณะนี้กลุ่มผลิตภัณฑ์ EQS ประกอบด้วย EQS 450+, EQS 580 4MATIC และ AMG EQS 53 4MATIC+

Bernie Glaser ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ที่ Mercedes-Benz USA บอกเป็นนัยกับ CarBuzz ว่า EQS อาจกลายเป็น S-Class เมื่อ Mercedes กลายเป็นบริษัทไฟฟ้าทั้งหมด เราไม่เห็นสาเหตุที่ทำให้ EQS SUV และ GLS SUV รวมกันเป็นรุ่นเดียวไม่ได้เมื่อการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นในทศวรรษหน้า

Mercedes-Benz Group ยืนยันว่ามีแผนจะเปิดตัว Mercedes EQS SUV ในวันที่ 19 เมษายน 2022 เวลา 06:00 น. ET บริษัทได้เริ่มจับเวลาถอยหลังบนเว็บไซต์สื่อ Mercedes me และเผยแพร่ภาพทีเซอร์ที่แสดงโปรไฟล์ของรถไฟฟ้า EQ รุ่นถัดไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการตลาดรอบปฐมทัศน์ของโลก ในกลุ่มรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน Mercedes GLS ที่ผลิตในสหรัฐฯ (76,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นต้นไป) มีราคาถูกกว่ารถซีดานรุ่น Mercedes S-Class ที่ผลิตในเยอรมนี (109,800 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป)

อย่างไรก็ตาม อย่าคาดหวังว่า Mercedes EQS SUV จะมีราคาถูกกว่า EQS มาก ราคาของ Mercedes EQS ซึ่งเป็นรุ่นนำเข้าในสหรัฐฯ เริ่มต้นที่ 102,310 เหรียญสหรัฐ และสูงถึง 125,310 เหรียญสหรัฐ คาดว่าราคาของ Mercedes EQS SUV ที่ผลิตในประเทศ (ถ้ากล้าตัดสินใจ จะลดลงในช่วง 100,000-130,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Mercedes EQS SUV
Mercedes EQS SUV วันที่และราคาจำหน่ายคือเท่าไร?
การเปิดตัว EQS SUV ในสหรัฐฯ จะมีขึ้นในช่วงกลางปี 2022 ราคาควรเริ่มต้นประมาณ 110,000 เหรียญสหรัฐเมื่อเปิดตัว

Mercedes EQS SUV วิ่งไกลเท่าไหร่
Mercedes EQS SUV range (EPA) คาดว่าจะอยู่ที่ 500-550 กิโลเมตร

รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหน ที่เป็นคู่แข่งของ Mercedes EQS SUV ?
Lucid Gravity, Range Rover EV และ Electric Hummer SUV จะเป็นคู่แข่งโดยตรงของ EQS SUV ในตลาดรถอเนกประสงค์พลังงานไฟฟ้า.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/