“เขื่อนกะทูน” ขึ้นท็อปเสิร์ชที่เที่ยว จ.นครศรีธรรมราช

เขื่อนกะทูนจังหวัดอะไร กลายเป็น Top Search ประจำวันที่ 3 พ.ค. 2565 ในกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยว Unseen ในประเทศไทย “เขื่อนกะทูน” หรือ “อ่างเก็บน้ำกะทูน” อ.พิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ประวัติของสถานที่นี้มีมายาวนาน เคยเกิดเหตุโคลนถล่มเสียหาย และปัจจุบันกลายเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามของชาวนครศรีฯ

เขื่อนกะทูน ประวัติและเส้นทางท่องเที่ยว Unseen จ.นครศรีธรรมราช

ประวัติเขื่อนกะทูน จ.นครศรีธรรมราช

อ่างเก็บน้ำกะทูน หรือ เขื่อนกะทูน สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2540 เป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) จากสาเหตุพายุนำโคลนถล่มพัดบ้านเรือนชาวบ้านเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน อันเป็นภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2531 อ่างเก็บน้ำกะทูน หรือ เขื่อนกะทูน มีพื้นที่ครอบคลุม ตำบลกะทูน อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช

ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากสาเหตุน้ำป่าไหลเข้ามาท่วมหมู่บ้านและพื้นที่เพาะปลูกของชาวบ้าน แม้ว่ามีฝนตกและน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนั้นเกิดมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าทุกปี และพื้นที่มีความลาดชันจากการตัดไม้ทำลายป่า ภูเขาพังทลาย ดินไม่สามารถทนการกัดเซาะของน้ำฝนได้ ทำให้พัดพาตะกอนทราย กรวด ก้อนหิน และพัดต้นไม้ใหญ่ทั้งต้นลงมาทับถมเชิงเขาเป็นจำนวนมาก

บ้านเรือนประชาชนพังทลาย ชาวบ้านล้มตาย ปศุสัตว์และการเกษตรก็เสียหายทั้งหมด แม้กระทั่งวัดที่เพิ่งสร้างเสร็จ เผาศพไปได้ศพเดียว ก็ต้องปล่อยร้างไว้ ภายหลังการสร้างอ่างเก็บน้ำกะทูน เมื่อช่วงน้ำลดก็ยังคงมองเห็นเมรุวัดดังกล่าว แต่ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่เดิมได้อีก เนื่องจากเสียหายไปมาก

เขื่อนกะทูน สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้

ภายหลังจากอ่างเก็บน้ำกะทูน หรือ เขื่อนกะทูน สร้างเสร็จ ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชาวนครศรีฯ เวลาชวนกันมาเที่ยวเขื่อน อ.พิปูน ก็จะใช้คำว่า “ไปเที่ยวเขื่อนกันไหม” แต่นอกจากเขื่อนกะทูนแล้วใน อ.พิปูน ยังมีอ่างเก็บน้ำคลองดินแดง ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาพระ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำเพื่อแก้ปัญหาชลประทานเช่นกัน

จังหวัดนครศรีธรรมราช มีแหล่งน้ำขนาดกลาง 187,250 ไร่ เก็บน้ำได้ 213.25 ลูกบาศก์เมตร ประโยชน์จากระบบชลประทานนี้เพื่อการอุปโภค บริโภค และป้องกันน้ำป่าไหลหลากสู่บ้านเรือนประชาชน

เขื่อนกะทูน น้ําลดช่วงไหน

วัดกลางน้ำที่จมในเขื่อนกะทูน สร้างขึ้นมาในแหล่งชุมชน เผาได้เพียงศพเดียวก็เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม พ.ศ. 2531

เขื่อนกะทูน น้ําลด ช่วงเดือนกันยายน บางปีจะมองเห็นหมู่บ้านเดิมที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเมื่อกว่า 30 ปีก่อน ภัยพิบัติครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตที่ช่วยนำร่างและศพออกมาไม่ทัน บางศพก็ถูกฝังกลืนไปกับหมู่บ้านเดิมที่เคยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย เมื่อเขื่อนกะทูนน้ำลดจะมองเห็นวัดและซากบ้านเรือนปูน ทำให้เป็นที่สะเทือนใจกับเหตุการณ์ในอดีต

เขื่อนกะทูน เส้นทาง

เขื่อนกะทูน ตั้งอยู่ที่ หมู่ 6 ตำบลกะทูน อำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางได้จากสนามบินนครศรีธรรมราช หรือสนามบินสุราษฎร์ธานี ใช้เวลาเดินทางจากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช 1 ชั่วโมงครึ่ง ผ่านทางหลวง 4015 ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร พิกัด : 8°33’57.6″N 99°31’36.2″E คลิกเส้นทางไปยังเขื่อนกะทูนที่นี่

เขื่อนกะทูน เส้นทางจากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที

ที่เที่ยวจังหวัดนครศรีธรรมราชยอดนิยม

เขาพลายดำ

เขาพลายดำ มีชื่อเสียงเรียกว่า “มังกรทะเลใต้” ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอขนอมและสิชล เป็นที่ตั้งของสถานีพัฒนาส่งเสริมอนุรักษ์สัตว์ป่านครศรีธรรมราช มีความสูงถึง 816 เมตร และเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าหลายชนิด เช่น กวาง ลิง ค่าง นก กระจง รวมถึงผีเสื้อหลากหลายชนิด มีหาดทรายสีขาวทอดตัวยาวลงไปในทะเลถึง 3 เมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวต่างถิ่น

บ้านคีรีวง

บ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นชื่อว่าเป็น The Best Ozone in Thailand มีอากาศที่ดีที่สุด โดยสำนักจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ เคยวัดค่าคุณภาพอากาศ หรือ AQI ได้ 17-47 จัดอยู่ในค่าดีมาก เมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ ทางโครงการจึงได้สร้างอาคารและจุดเช็กอินเพื่อให้นักท่องเที่ยวบันทึกภาพว่าครั้งหนึ่งเคยเดินทางมายังจุดที่อากาศดีที่สุดของประเทศไทย

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร มรดกทางวัฒนธรรมแดนใต้ เป็นหลักฐานยืนยันว่าพระพุทธศาสนาได้เข้ามายังเขตประเทศไทยมาเป็นเวลานาน ประดิษฐานพระบรมธาตุเจดีย์เมืองนครศรีธรรมราช ว่าที่มรดกโลก และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวนครศรีฯ ในงานบุญต่างๆ ที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน

เขื่อนกะทูนอยู่ใกล้กับเขตพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใครที่มีแผนจัดทริปภาคใต้ก็ไม่ควรพลาดแวะเที่ยวชมเขื่อนกะทูน สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้ บนถนน 4015 และยังมีร้านอาหาร รีสอร์ตที่ต้อนรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ก่อนจะเดินทางไปยังจุดเช็กอินอื่นๆ ที่น่าสนใจของภาคใต้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ที่มา : www.nakhonsithammarat.go.th, thai.tourismthailand.org,km.rdpb.go.th