หนูเล็กเด็กเยอรมัน ทดสอบ AUDI A3 SPORTBACK 35TFSI S LINE




Audi New A3 Sportback ใช้แนวคิดง่ายๆ ตามแบบรถรุ่นพี่ที่เคยโด่งดังในอดีตด้วยการนำรถเล็กแบบ Hatchback มาปรับรูปลักษณ์ให้ทันสมัยน่าใช้ ปรับประสิทธิภาพด้านระบบส่งกำลังและช่วงล่างที่ให้ทั้งความสบายและความมั่นคงขณะทำความเร็ว การกระทำดังกล่าวช่วยเพิ่มยอดขายให้กับ Audi ไม่ว่าจะเป็น A3 S3 หรือแม้แต่ RS3 เอกลักษณ์ของรถรุ่นนี้ก็คือความสนุกในการควบคุม ความแม่นยำในการเปลี่ยนทิศทาง ความคล่องแคล่วว่องไวในเมืองและอารมณ์หลังพวงมาลัยที่ไม่เหมือนใคร ในขณะที่ BMW 220i Gran Coupe M Sport รุ่น CKD ประกอบในประเทศ ราคา 2,169,000 บาท ทำให้เจ้าตราใบพัดคันเล็กแบบซีดานสี่ประตู มีราคาถูกกว่า A3 Sportback 35TFSi S Line ถึง 230,000 บาท ส่วน Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 2,150,000 บาท ถูกกว่าเจ้าจิ๋วสี่ห่วงถึง 249,000 บาท แต่ A3 Sportback CBU ที่เป็นรถนำเข้ามาจากเยอรมนี ก็มีบางจุดที่แปลกแยกและแตกต่างไปจากคู่แข่งรถเล็กขับหน้าทั้ง BMW Series-2 และ Mercedes-Benz A-Class ความแตกต่างดังกล่าวก็คือรูปแบบของการใช้งานและฟีลลิ่งในการควบคุม 

Audi New A3 Sportback ใช้แพลตฟอร์ม Volkswagen Group’s MQB architecture พ่วงกับรถเล็กภายใต้แบรนด์ Volkswagen โดยทำการดีไซน์ช่องเก็บสัมภาระเพื่อเอาใจผู้ใช้งาน โดยเฉพาะแม่บ้านทั่วโลกที่ชอบรถเล็กคล่องตัว ใช้พื้นที่ในการจอดไม่มาก เหมาะกับการขับในเมืองหรือเดินทางไกล ออกแบบห้องเก็บสัมภาระท้ายให้สามารถเก็บของได้ ระหว่าง 380 และ 1,200 ลิตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเบาะนั่งด้านหลัง ถ้าปรับพับเบาะหลังให้ราบลงกับพื้นก็จะได้พื้นที่ขนของเต็มเหนี่ยวแต่นั่งโดยสารได้แค่สองคน ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริงโช้คอัพและกันโคลง ส่วนด้านหลังยังใช้มัลติลิงก์เหมือนเดิม เป็นแบรนด์ที่เน้นไดนามิกส์ของการขับขี่ ความสนุกหลังพวงมาลัยและการตอบสนองที่รวดเร็วแม่นยำตามสไตล์รถเล็กชั้นดีจากเยอรมนี

New A3 Sportback 35 TFSI S line ถูกออกแบบภายนอกให้ทันสมัยมากกว่าที่ผ่านมา รูปแบบทั้งคันใช้เส้นสายของตัวถังที่มีความคมชัด ดีไซน์ของรถได้แรงบันดาลใจมาจาก Ur quattro กระจังหน้า (Single frame) ขนาดใหญ่ ช่องทางเข้าของอากาศด้านล่างทั้ง 2 ฝั่ง สีดำแบบสปอร์ต บริเวณหลังด้านท้ายและสปอยเลอร์ถูกออกแบบให้มีความลงตัวโดยยึดถือรูปทรงของรถรุ่นพี่อย่าง Audi A4 Avant เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของรุ่น A3 Sportback ชุดแต่งสปอร์ตภายนอก S line เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรถ A3 ใหม่ ที่ขายในประเทศไทย

A3 Sportback รุ่นใหม่ เปิดตัวในไทยพร้อมกับเครื่องยนต์ 35TFSi เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 กระบอกสูบ เทอร์โบ TFSi ปริมาตรความจุ 1.5 ลิตร กำลัง 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร มีเฉพาะรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเท่านั้น ส่วน New A3 Sportback รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro อาจจะตามออกมาขายในภายหลัง การติดตั้งขุมกำลังขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านแรงม้าและแรงบิดที่สูงกว่า เครื่องยนต์ส่งกำลังแรงบิดผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

New A3 Sportback 35 TFSI S line วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียงพร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) เทอร์โบชาร์จ ขนาด 1,395 ซีซี ตัวเลขกำลังอยู่ที่ 150 แรงม้า กับแรงฉุดลากสูงสุด 250 นิวตันเมตร แรงบิดเหมาะสมกับขนาดและน้ำหนัก ทำให้เกิดความคล่องตัวเมื่อขับเคลื่อน อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.4 วินาที ความเร็วสูงสุด ไหลยาวๆ ได้ถึง 224 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบใหม่ ปรับอัตราทดให้กว้างและมีโอเวอร์ไดรฟ์ที่เกียร์ 7-8 เพื่อช่วยลดรอบเครื่องยนต์ ทำให้ใช้เชื้อเพลิงได้อย่างเหมาะสมในทุกย่านความเร็ว

คันเกียร์ถูกออกแบบใหม่ ให้เป็น Compact Shifter ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์คันเกียร์ใหม่ที่มีขนาดเล็กจิ๋ว ช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณคอนโซลกลางให้กว้างขึ้น คันเกียร์ขนาดเล็ก ใช้นิ้วเลื่อนขึ้น หรือเลื่อนลงในการเลือกเกียร์ที่ต้องการ เมื่อต้องการใช้เกียร์ Manual สามารถใช้การเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองผ่านแป้น Paddle Shift ตรงพวงมาลัย เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบใหม่ ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการทดกำลังได้หลายช่วงรอบความเร็วของเครื่องยนต์เพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน และเพิ่มการตอบสนองสำหรับการขับในโหมดสูงสุด Dynamic คันเกียร์แบบ Compact Shifter จุดประสงค์ก็คือ ทำให้คนขับไม่เผลอเอามือมาวางไว้บนหัวเกียร์ หรือใช้มือซ้ายจับหัวเกียร์ไปตลอดทาง คันเกียร์ที่สั้นกุดเหมือนแป้นสวิตช์สั่งงานยังออกแบบให้ซุ้มเกียร์มีพื้นที่มากกว่าเดิม 

ห้องโดยสารที่แปลกแยกและแตกต่างของแบรนด์ Audi ใช้พลาสติกเกรดสูง ชิ้นงานบางจุดทำเลียนแบบโลหะอะลูมิเนียม งานประกอบภายในอยู่ในเกณฑ์ดี หนาแน่นและเต็มไปด้วยสไตล์ของพวกนักออกแบบจากเมือง ingolstadt ตกแต่งด้วยลาย Platinum grey เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ต จุดที่ชอบคือนั่งสบายปรับด้วยไฟฟ้าได้อย่างครอบคลุม ความนุ่มของวัสดุที่รองอยู่ภายในตัวเบาะช่วยลดอาการเมื่อยล้าเมื่อขับทางไกล เบาะทรง Sport คู่หน้าหุ้มหนังแท้ ตำแหน่งของพนักพิงศีรษะอยู่ในระดับที่ดี จุดที่ยืดออกได้เพื่อรองรับต้นขาคล้ายกับ BMW และ Mercedes-Benz เบาะหลังออกแบบให้นั่งได้สามคน แต่ถ้าไม่อยากอึดอัดก็นั่งแค่สองกำลังพอดีๆ เมื่อลองนั่งดูความสบาย ระยะพื้นที่เหนือศีรษะและตำแหน่งวางขาแถวหัวเข่าก็ยังเหลืออีกพอสมควร เบาะหลังแยกพับได้เพื่อความสะดวกในการขนของหรือสัมภาระขนาดใหญ่ ฝาท้ายไฟฟ้าช่วยทำให้ง่ายขึ้นขณะใช้งาน พื้นที่เก็บสัมภาระ 380-1,200 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังราบลงกับพื้น 

หน้าจอ MMI Radio plus สั่งานด้วยการสัมผัสที่หน้าจอ (MMI touch) ขนาด 10.1 นิ้ว A3 ใหม่ ติดตั้งระบบเชื่อมต่อ Audi smartphone interface รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth ระบบ Audi sound system หน้าจอ Digital Instrument Cluster เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน การตอบสนองของพวงมาลัยตามสภาพการขับและโหมดขับเคลื่อน ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง เพิ่มหรือลดเสียงระบบสัมผัแบบเดียวกันกับที่ใช้ใน Audi e-tron GT ระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง เบาะหนังปรับไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบบันทึกความจำสำหรับเบาะที่นั่งคนขับ ฝาท้ายเปิดปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อม Kick Sensor กล้องถอยหลังขณะเข้าจอด

ภายในของ A3 Sportback จัดวางตำแหน่งมาดี เน้นการใช้งานอุปกรณ์หลักๆ ให้ขึ้นตรงกับตำแหน่งคนขับ เป็นสไตล์งานออกแบบภายในที่เน้นคนขับเป็นจุดศูนย์กลาง เบาะนั่งแบบสปอร์ตที่นั่งสบายเมื่อขับทางไกล แดชบอร์ดคอนโซล ขึ้นรูปด้วยโฟมหุ้มด้วยวัสดุพวกไวนิลที่มีคุณภาพสูง (มาก) พวงมาลัยสปอร์ต 3 ก้าน พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์และปุ่มปรับสารพัดประโยชน์ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า Progressive Steering ทำงานแปรผันน้ำหนักของพวงมาลัยไปตามโหมดขับเคลื่อน จอแสดงผลแบบใหม่ สั่งงานด้วยเสียงหรือระบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว ใช้งานได้เร็วและง่าย ในขณะที่แผงหน้าปัดเป็นระบบดิจิทัล TFT ที่มีความคมชัดสูง (มาตรวัดจอภาพแบบเดียวกับ Audi New A1) กึ่งกลางของมาตรวัดเป็นจอภาพแสดงข้อมูล MID multi function display แจ้งเตือนค่าต่างๆ ของรถ เช่น อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เวลาและวันที่ การแสดงอัตราสิ้นเปลืองพลังงานและความประหยัด ทริปมิเตอร์ อุณหภูมิภายนอกห้องโดยสาร

หลังจากที่ New A3 Sportback เปิดตัวในตลาดโลก Audi AG จะค่อยๆ เพิ่มรุ่นที่มีความหลากหลายมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในหรือเพิ่มเติม New A3 ด้วยระบบขับเคลื่อนแบบไฟฟ้าล้วน 100% และแน่นอนรวมถึงรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ กับระบบควบคุมแรงบิดทุกล้อที่มีประสิทธิภาพสูงอย่าง Quattro สำหรับ A3 รุ่นที่มีกำลัง 110 kW (150Hp) ติดตั้งช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงก์ โดยปรับเปลี่ยนจากช่วงล่างแบบคานแข็งหรือทอร์ชันบีมมาเป็นมัลติลิงก์ การปรับระบบรองรับด้านหลังใหม่หมด ทำให้การทรงตัวดีขึ้น โช้คอัพแบบ Adaptive damper control เป็นออปชั่นเสริม สำหรับลูกค้าขาแรงที่ชอบขับเร็ว โช้คไฟฟ้าลดความสูงลงอีก 10 มิลลิเมตร เป็นระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ตที่ต้องเสียเงินเพิ่ม เป็นออปชั่นมาตรฐาน ร่วมกับแพ็กเกจของอุปกรณ์ตกแต่งภายนอก-ภายในจาก Audi Sport S Line ผมลองขับทั้งในเมืองและออกทางไกลไปยังอำเภอสามร้อยยอด เพื่อดูการตอบสนองของรถแฮตชแบ็กที่กำลังอยู่ในกระแส ก่อนที่จะกลายไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้าในอีกไม่กี่ปีนับต่อจากนี้

สัดส่วนที่สวยงาม มีการเสริมเขี้ยวเล็บด้วยเครื่องยนต์ขนาดเล็กอัดเทอร์โบ มีการลดน้ำหนักไม่ให้เจ้า A3 ใหม่ตัวอ้วนมากเกินไป สิ่งที่ Audi ทำกับ A3 ก็คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ตัวเล็ก ใช้เทอร์โบที่มีการตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว การปรับแต่งช่วงล่างด้านหน้าช่วยลดอาการทอร์คสเตียร์และทำให้ A3 นิ่งขึ้นขณะออกตัวอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอาการดึงที่พวงมาลัยเหมือน 220i ที่มีอารมณ์คล้าย MINI Cooper S ความนิ่งในย่านความเร็วสูงทำให้ A3 Sportback เป็นรถที่ขับเร็วแล้วไม่ค่อยรู้สึกว่าเร็ว กำลัง 150 แรงม้า กับแรงบิด 250 นิวตันเมตร เร่งความเร็วได้อย่างฉับไวผ่านโหมด Dynamic อัตราเร่ง 7.4 วินาที ในการตะกายจากจุดหยุดนิ่งไปจนถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สูสีกับ BMW 220i ทั้งสองคันมีอัตราเร่งที่ดีพอๆ กัน แต่ BMW จะมีอาการดึงหรือขืนตัวของพวงมาลัยเมื่อออกตัวเร็วๆ อาการดังกล่าว หลายคนชอบและทำให้รู้สึกสนุก แต่บางคนก็ชอบออกตัวเร็วๆ พร้อมกับพวงมาลัยที่นิ่งและเนียนในรถ Audi 

ความสามารถในการบริหารเชื้อเพลิงอยู่ในเกณฑ์ดี ลองวิ่งเรื่อยๆ ที่ความเร็ว 110 -120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 14.4 กิโลเมตรต่อลิตร ในโหมด Efficency ส่วนโหมดท้ารบอย่าง Dynamic เป็นโหมดที่แสดงออกถึงกำลังจากเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เทอร์โบได้ดีที่สุด โหมดนี้ พวงมาลัยจะหนืดขึ้นเล็กน้อย เหมาะกับการเล็งหัวโค้งแล้วพุ่งเข้าไปหาแบบรถขับหน้าที่มีการเกาะถนนดีเยี่ยม อาการหน้าดื้อจะเกิดขึ้นเมื่อความเร็วในโค้งเริ่มเกินนิดๆ แค่ยกคันเร่งหน้ารถก็จะเลี้ยวได้ตามสั่ง จุดที่ชอบก็คือ การเร่งความเร็วที่มั่นคงมาก ไม่มีอาการวอกแวก พุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเวลาใช้ความเร็ว การเร่งแซงรถช้าด้วยโหมด Dynamic ค่อนข้างกินเชื้อเพลิงเพราะซอฟต์แวร์ควบคุมระบบเกียร์จะลดหรือคาเกียร์ที่มีแรงบิดเหมาะสมอย่างเกียร์ 4 -5 เมื่อถอนคันเร่งรอบเครื่องก็ไม่ได้หล่นลงมาเร็วเกินไป ความพอดีของ A3 Sportback อยู่ที่การเลือกใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพด้านการตอบสนองว่องไวเป็นพิเศษ เกียร์ขับหน้าที่มีมาให้ใช้ถึง 8 สปีด แม้จะไม่ได้ขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยชุด Quattro แต่การยึดเกาะของมันก็ไม่ได้เป็นรอง BMW 220i หรือ Mercedes-Benz A200 AMG ออกจะเหนือกว่าด้วยซ้ำในด้านของความคล่องตัวและความแม่นยำในการเลี้ยวโค้งที่ทำออกมาได้ดีเกินคาด 

ตำแหน่งของการนั่งขับถอดแบบมาจาก TT คุณสามารถปรับเบาะให้เตี้ยสุดๆ ได้ดั่งใจ พวงมาลัยปรับสี่ทิศทางด้วยมือก็ครอบคลุมการปรับตั้งที่ถูกต้องกับสรีระร่างกายของคนขับ พวงมาลัยมาพร้อม Paddle Shift ซึ่งแทบจะไม่มีความจำเป็นเนื่องจากเกียร์ 8 สปีดทำงานเร็วและแม่นยำในทุกโหมด แต่ถ้าขับบนเส้นทางภูเขา แป้นเปลี่ยนเกียร์ก็จะเข้ามาช่วยทำให้การลดหรือเพิ่มอัตราทดเร็วขึ้นโดยที่ไม่ต้องละมือซ้ายไปโยกคันเกียร์ การตอบสนองของแรงบิดที่คงที่ในย่านความเร็วสูง เกียร์ทำงานเร็วและเนียน ไม่มีอาการกระตุกกระชาก คุณสามารถคาเกียร์ 3 ในตำแหน่งเกียร์ S (Sport) รอบเครื่องกวาดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อลดเกียร์ก่อนถึงหัวโค้ง แล้วใช้นิ้วชี้ด้านขวามือกระดิกไปที่แป้นเพื่อเปลี่ยนเกียร์ขึ้นสู่เกียร์สูงขณะที่หัวของเจ้า A3 กำลังจะพ้นจากส่วนปลายของโค้ง ยาง Bridgestone Turanza T005 ไซส์ 225/40R18 92Y ทำหน้าที่ได้ดีในวันที่มีแดดจัด กริ้บแบบกลางๆ ของมันเหมาะสมกับแรงบิดของเจ้า A3 แก้มยาง 40 Series ค่อนข้างแข็งตามสไตล์ของยางจาก Bridgestone กริ้บที่ดีของยางทำให้ต้องใช้ความเร็วสูงมากในโค้งมันถึงจะส่งเสียงร้องออกมา 

Audi มีชื่อเสียงในด้านการให้รถของตนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกในการบังคับเลี้ยว ในขณะที่ A3 ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นปราการด่านสุดท้ายของการมีส่วนร่วมแบบไดนามิก ยังมีรุ่นที่แรงกว่าอย่าง S3 และ RS3 แต่ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักจะทำตามความชอบและเงินในกระเป๋าของตัวเองหลังผ่านประสบการณ์กับ BMW และ Mercedes-Benz ก่อนที่จะขยับไป Porsche ก็ต้องขอลอง Audi เพื่อสร้างความคุ้นชิน A3 Sportback 35TFSi S Line ที่ผมทดสอบมาพร้อมกับ Progressive Steering ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมของ Audi ใช้แร็คพวงมาลัยควบคุมด้วยไฟฟ้าที่มีอัตราส่วนแปรผัน สิ่งนี้ทำให้พวงมาลัยบังคับทิศทางได้ดีขึ้น ยิ่งคุณหมุนวงล้อมากขึ้นวงเลี้ยวก็จะแคบ ซึ่งเหมาะสำหรับการจอดรถในที่คับแคบ เนื่องจากคุณสามารถหมุนล็อกจากซ้ายไปขวาได้อย่างรวดเร็ว พวงมาลัยที่ให้ความรู้สึกดี ทำให้ A3 มีความคุ้มค่าอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อขับเร็วในโค้งมุมแคบ อัตราส่วนแปรผันช่วยให้เลี้ยวได้อย่างแม่นยำบนน้ำหนักพวงมาลัยที่พอดี โดยไม่ทำให้พวงมาลัยมีความไวมากเกินไป ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าแบบมาตรฐานพร้อมตัวช่วยที่ไวต่อความเร็วทำให้ A3 รุ่นเล็กเป็นรถที่แม่นยำมากกว่าคู่แข่ง ผู้ขับสามารถปรับความรู้สึกของการบังคับเลี้ยวได้ด้วยการสลับโหมดต่างๆ ในฟังก์ชัน Drive Select มีเพียงโหมดไดนามิกแบบสปอร์ตเท่านั้นที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนในด้านความคมและน้ำหนักที่เป็นเลิศ เมื่อขับเร็ว ระบบจะคาดการณ์ว่าน้ำหนักของพวงมาลัยนั้น ต้องการแรงหมุนจากคนขับมากขึ้นอีกนิด และที่จริงแล้ว เมื่อใช้โหมด Dynamic พวงมาลัยจะมีแรงต้านเพิ่มขึ้นนิดเดียวซึ่งเหมาะสมกับการขับเร็ว

ระบบกันสะเทือน ใช้โช้คอัพมีวาล์วที่ออกแบบมาเป็นพิเศษในกระบอกโช้ค เพื่อปรับเปลี่ยนอัตราการไหลของเหลว การปรับตั้งค่าของโช้คและสปริงที่ Audi มีความเชี่ยวชาญ A3 ให้ความรู้สึกประนีประนอมที่ดีระหว่างความสะดวกสบายและการควบคุมองคาพยพ ดังนั้นการอัปเกรดจึงไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใดทั้งสิ้น แทร็กที่กว้างขึ้น 11 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าโค้งและความมั่นคงขณะเทโค้ง ความซับซ้อนของระบบกันสะเทือนจะแตกต่างกันออกไปเมื่อพิจารณาจาก A3 รุ่นต่างๆ หาก A3 ของคุณมีแรงม้า 150 ตัว ไม่ต้องกังวนว่าช่วงล่างหลังจะกลายเป็นทอร์ชันบีม ระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ที่ทำงานได้เหนือกว่า ด้วยการออกแบบสปริงและโช้คอัพที่แยกจากกัน แน่นอนว่ามันให้ความรู้สึกนุ่มนวลใช้ได้เมื่อวิ่งบนผิวถนนที่ไม่เรียบ ทำให้เป็นรถเล็กขับทางไกลในอุดมคติ ช่วงล่างไม่กระด้างและยึดเกาะกับถนนอย่างที่ควรจะเป็น 

จุดแข็งของ A3 Sportback ก็คือ การออกแบบภายนอก การตกแต่งภายในที่ดีขึ้นมาก และประสบการณ์การขับที่ดียิ่งกว่าเดิม เป็นทิศทางที่ดีสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Sportback ขนาดเล็กในขณะที่ไดนามิกของรถถูกขยายไปยังรุ่น S3 ที่สปอร์ตกว่าและ RS3 ที่มีระบบดริฟต์ล้อหลัง รุ่นมาตรฐาน 35TFSi S Line เหมาะสมกับการใช้งาน แต่แพงไปหน่อยเมื่อเทียบกับ BMW 220i Gran Coupe ในรถสี่ห่วง คุณจะได้อารมณ์ความรู้สึกของรถขับหน้าที่แตกต่างไปจากคู่แข่ง ความนิ่งในย่านความเร็วสูง พื้นที่ภายในกึ่งๆ สเตชั่นแวกอน และความสามารถของระบบส่งกำลังขนาดเล็ก สีเหลืองงูเหลือม Python yellow ในรถคันทดสอบดูสดใส แต่สีฟ้า Turbo blue ทำให้มันดูแรงเกินความเป็นจริง เลือกตราดาว A200 ถ้าคุณอยากประหยัดเงิน เพราะมันถูกที่สุดแต่ก็ขับได้ไม่ดีเท่ากับคู่แข่งอย่าง A3 และ Series-2 การเลือก 220i หมายถึงการเลือกซื้อ MINI Cooper S ในราคาแค่ 2.1 ล้าน สำหรับการเลือกเจ้าสี่ห่วงคันเล็ก หมายถึงการหลบหนีจากยักษ์ใหญ่ทั้งสองแบรนด์เพื่อเข้าสู่มาตรฐานการขับที่ดีจาก Audi ไม่ว่าคุณจะชอบมันหรือไม่ A3 Sportback ก็อยู่ในใจของนักขับหลายคนละครับ.  

Audi A3 Sportback Technical data

A3 Sportback 35 TFSI S line ราคา 2,399,000 บาท
แบบเครื่องยนต์
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง
พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
แบบฉีดตรง (direct injection), เทอร์โบชาร์จ
จำนวนวาล์ว 4 วาล์วต่อสูบ 16 วาล์ว
ปริมาตรกระบอกสูบ 1,395 ซีซี.
แรงม้าสูงสุด 110 กิโลวัตต์ 150 แรงม้า ที่ 5,000 – 6,000 รอบต่อนาที 
แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 3,500 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน ขับเคลื่อนล้อหน้า
อัตราเร่ง 0-100 กม. / ชม. 8.4 วินาที
ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ 224 กม. / ชม.
ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Start/stop system) 
พวงมาลัย พวงมาลัยไฟฟ้า Progressive Steering
เบรกหน้า ดิสก์เบรก
เบรกหลัง ดิสก์เบรก
พื้นที่เก็บสัมภาระ 380 – 1,200 ลิตร
ความจุถังน้ำมัน 50 ลิตร
ล้อ 18 นิ้ว ขนาด 8J x 18 พร้อมยาง bridgestone turanza ขนาด 225/40 R18 
ยางอะไหล่ 

มิติตัวถัง
กว้าง 1,816 มิลลิเมตร 
ยาว 4,343 มิลลิเมตร
สูง 1,449 มิลลิเมตร
ความยาวฐานล้อ 2,636 มิลลิเมตร 
ระยะห่างล้อหน้า 1,554 มิลลิเมตร
ระยะห่างล้อหลัง 1,525 มิลลิเมตร
ระยะโอเวอร์แฮงก์หน้า 905 มิลลิเมตร 
ระยะโอเวอร์แฮงก์หลัง 802 มิลลิเมตร 

สีตัวถัง
Glacier white,
metallic (2Y2Y)
Mythos black,
metallic (0E0E)
Python yellow,
metallic (R1R1)
Tango red,
metallic (Y1Y1)
Turbo blue,
solid (N6N6)

ระบบความปลอดภัย A3 Sportback 35 TFSI S line
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร 
ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง 
ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย 
ระบบเบรกมือไฟฟ้า 
ระบบล็อกเบรกขณะหยุดนิ่ง (Audi hold assist) 
ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system) 
ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic brake distribution) 
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system) 
ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with stabilization function) 
เซนเซอร์หลังช่วยในการนำรถเข้าจอด 
กล้องแสดงภาพด้านหลัง ขณะถอยจอด 
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก 
ชุดปฐมพยาบาล 

อุปกรณ์มาตรฐาน
ระบบเลือกโหมดการขับขี่ (Audi drive select) 
ชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line 
ไฟหน้าแบบ LED
ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED
กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ 
ระบบเปิด-ปิดไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ 
ตกแต่งห้องโดยสารภายในด้วยลาย Platinum grey 

ความสะดวกสบาย
เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับดันหลัง และฟังก์ชันบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งผู้ขับขี่ 
เบาะนั่งหุ้มหนัง 
เบาะนั่งคู่หน้าแบบ Sports 
เบาะผู้โดยสารด้านหลังพับได้ 
ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระ 3 โซน 
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน แบบสปอร์ตท้ายตัด พร้อม Paddle shift 
ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise control) 
กุญแจแบบ Comfort key พร้อมระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายโดยไม่ต้องใช้มือ 

ระบบข้อมูลและความบันเทิง
ระบบเครื่องเสียง Audi sound system 
ระบบ MMI Radio plus พร้อมหน้าจอแบบสัมผัส (MMI touch) ขนาด 10.1 นิ้ว 
ระบบ Audi smartphone interface 
รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 
ช่องเชื่อมต่อ USB 
ไฟเรืองแสงในห้องโดยสารสีขาว (White ambient lighting)

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/