สุดยอด 5 เกมซูเปอร์ฮีโร่สุดมันเพื่อติ่ง MARVEL และ DC




ยุคนี้เวลานี้คงเป็นโมเมนต์ในฝันของเหล่าแฟนๆ ซูเปอร์ฮีโร่หลายคน เพราะนอกจากฮอลลีวูดจะแห่ทำหนังแนวฮีโร่ออกมาไม่หยุดหย่อน คุณภาพความสนุกของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ก็ยังดีขึ้นตามไปด้วย แต่ถึงกระนั้น เราก็เชื่อว่ามีใครหลายคนที่ดูหนังค่าย MARVEL หรือ DC จบแล้วแต่อารมณ์ไม่ค่อยจบ ยังกระหายอยากจะหาเกมซูเปอร์ฮีโร่สนุกๆ มาเล่นเติมอารมณ์ให้เต็มอิ่มกันต่อ ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้น ต่อไปนี้คือ 5 สุดยอดเกมซูเปอร์ฮีโร่ที่เล่นสนุกไม่แพ้การนั่งดูหนังฮีโร่ชั้นเยี่ยมที่เราคัดมา ขัดกับทุกขนบที่ว่าเกมที่ทำจากหนังมักจะห่วยแตก เอาเป็นว่าเล่นแล้วไม่รู้สึกเสียดายตังค์ แต่ถ้าไม่ได้เล่นคงจะเสียดาย

อันดับ 5: X-Men Legends 2: Rise of Apocalypse

เกม X-Men ที่แม้จะเก่าหน่อยแต่ถ้าใครเคยลิ้มลองจะรู้ว่านี่คือหนึ่งในเกมแอ็กชัน RPG ระดับขึ้นหิ้ง แม้แต่ในยุคนี้มันก็ยังหาเกมฮีโร่ที่เล่น Co-op กับเพื่อน 4 คนได้มันหยดติ๋งระดับนี้ยากมากๆ

จุดเด่นของเกมนี้คือการใช้เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ออกคอมโบใส่ฝูงศัตรูได้มั่วมันสะใจมาก ยิ่งถ้าเป็นตอนที่มีเพื่อนมาร่วมภารตะสามัคคีพร้อมกันนี่ยิ่งมั่วจนมองจอไม่รู้เรื่อง (แต่ก็ยิ่งมันยิ่งฮาแบบคูณสองนะ) โดยเกมจะให้คุณกดจังหวะคอมโบด้วยตัวเอง จากการผสมปุ่มตีเบา ตีหนัก กระโดด ท่าไม้ตาย และปุ่มอื่นๆ ทำให้สถานการณ์ระหว่างเล่นคือการแข่งกันรัวปุ่มประหนึ่งนั่งกดเกมตู้กันเลย นอกจากนี้ เกมยังทำให้ระบบคอมโบสนุกขึ้นไปอีก จากการอัปเลเวลตัวละครที่เปิดอิสระให้ผู้เล่นมากๆ คุณสามารถเพิ่มความเร็วในการซัด ความแรงของการโจมตี และเพิ่มท่าไม้ตายต่างๆ ได้หลากหลายมาก แถมเกมยังมีเหล่าฮีโร่กลายพันธุ์ทั้งฝ่ายดี (Professor X) และฝ่ายร้าย (Magneto) มาให้เลือกใช้ได้มากหน้าหลายตา เช่น วูล์ฟเวอรีน ไซคลอปส์ ไอซ์แมน ไนท์ครอวเลอร์ หรือเดดพูล เป็นต้น

ส่วนภาพในเกมแม้จะออกแนวสีสันฉูดฉาดแต่ก็ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนแบบเพลินๆ ทำให้เล่นคลายเครียดแบบสบายๆ ไปกับเพื่อนได้เพลินมาก ข้อเสียหลักก็คือเกมอายุขนาดนี้แล้วก็อาจจะหามาเล่นได้ยากหน่อย แต่ถ้าคุณและผองเพื่อนชอบแนวแอ็กชัน Co-op และยังพอจะหาเกมนี้มาเล่นได้ ก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

อันดับ 4: INJUSTICE 2

เกมต่อสู้ที่ยกตัวละครของฝั่ง DC มาแบบแทบครบจบหมดในที่เดียว อยากเล่นตัวไหนที่ไม่มีให้ลองในเกมอื่นนี่พนันได้เลยว่าหาได้ในเกมนี้ชัวร์ ทั้งซูเปอร์แมน แบทแมน วันเดอร์วูแมน เดอะแฟลช อควาแมน กอริลล่า Grodd ฯลฯ มีเยอะจนลามไปถึงตัวละครซูเปอร์ฮีโร่นอกค่ายอย่างเฮลล์บอยกับเต่านินจาเลยทีเดียว ส่วนระบบการต่อสู้ก็ค่อนข้างตรงไปตรงมา เล่นไม่ยากเกิน (แต่เล่นให้เก่งยาก) ที่สำคัญคือมันอุดมไปด้วยฉากปล่อยท่าไม้ตายบ้าพลังของเหล่าฮีโร่ที่เว่อร์หลุดโลกดีจริงๆ ทั้งต่อยอัปเปอร์คัททะลุชั้นบรรยากาศโลก เรียกรถแบทโมบิลมาชน หรือขนปลาทั้งทะเลมารุมกระทืบ นอกจากนี้ โหมดเนื้อเรื่องก็สนุกน่าติดตาม เมื่อซูเปอร์แมนดันกลายเป็นวายร้าย แต่ต้องมาจับมือกับแบทแมนเพื่อโค่นวายร้ายต่างโลกที่แกร่งกว่า สนุกเพลินแนวหนังรวมมิตรฮีโร่บ้าพลัง จนคุณอาจเผลอไถจนจบในทีเดียวได้เลย

ส่วนจุดเด่นที่สุดของเกมนี้ ก็คือระบบปลดล็อกเครื่องแต่งองค์ทรงเครื่องซูเปอร์ฮีโร่ที่เยอะจนให้คุณเลือกแต่งตัวออกมาเป็นเวอร์ชันหนังหรือคอมิกภาคไหนก็ทำได้เกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นชุดแบทแมนแบบหนังโนแลน ชุดซูเปอร์แมนแบบใน Man of Steel หรือเปลี่ยนตัวร้ายบางตัวให้ดูเหมือน Mr. Freeze เลยก็ทำได้ ซึ่งของแต่งเหล่านี้ยังช่วยปรับค่าพลังให้กับฮีโร่ของคุณด้วย ทำให้เกมมีความเป็นลูกครึ่งระหว่างเกมต่อสู้และเกม RPG เก็บเวล ทำให้คุณเปิดมาเล่นเพื่อฟาร์มของไปได้นานแสนนาน ต่อให้คุณไม่ใช่สายออนไลน์สู้กับคนอื่นก็ยังเล่นเกมนี้คนเดียวเกิน 100 ชม. ได้ไม่ยาก

อันดับ 3: Marvel’s Guardians of the Galaxy

เกมนี้อาจจะต่างจากเกมฮีโร่อื่นๆ ตรงที่คุณไม่ได้บังคับพระเอกให้บู๊แหลกอยู่คนเดียว แต่มีพลพรรคผู้พิทักษ์จักรวาลมาช่วยรุมตื้บศัตรูพร้อมกันทั้งทีม โดยในระหว่างบู๊ คุณในฐานะสตาร์ลอร์ดจะสามารถสั่งให้ร็อคเก็ตแรคคูน กรูท แดร็ก และกาโมราออกท่าพิเศษสารพัดแบบเพื่อน็อกศัตรูได้ (รวมทั้งเลือกใช้เพลงบิลด์จากยุค 80 เพื่อเพิ่มพลังให้ทีมได้ด้วย) โดยเฉพาะในช่วงหลังของเกมที่ท้าทายขึ้น ทำให้ออกคำสั่งมั่วซั่วแทบไม่ได้เลย ไม่งั้นโดนยำเละทั้งทีม

เกมเล่าเรื่องราวที่สนุกกลมกล่อมกำลังดี เผลอๆ สนุกกว่าเวอร์ชันหนังของนาย James Gunn อีก เนื่องจากเกมให้เวลาเล่าถึงปูมหลังตัวละครในทีมนานกว่า ส่วนสมาชิกในทีมการ์เดียนแต่ละคนก็ขยันจ้อผลัดกับหยอดมุกตุ่นใส่กันรัวๆ แทบจะตลอดเวลา ประมาณว่าใครไม่ชอบให้ตัวละครพูดบ้าบออะไรไปเรื่อยก็อาจจะรำคาญเกมนี้ไปเลย แต่ถ้าไม่คิดอะไรมากมันก็ฟังเพลินๆ ได้ตลกดี อีกเรื่องหนึ่งที่อดชมไม่ได้ก็คือเพลงประกอบในเกมนี่อย่างโดน หลายครั้งเพลงสุ่มเล่นขึ้นมาได้เข้ากับฉากแอ็กชันตรงหน้ามากๆ (เช่น เพลง Don’t Worry Be Happy ของ Bobby McFerrin ที่ทำให้ฉากบู๊ตรงหน้ามีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครไปเลย) นอกจากนี้เกมยังมาพร้อมกับเพลงร็อกแต่งเองสไตล์ยุค 80 อีกหลายเพลงเลยด้วย สรุปสั้นๆ คือเกมนี้ตอบโจทย์แฟน Guardians of the Galaxy ได้ครบรอบด้าน มุกฮาก็มี เพลงก็ดี แถมเนื้อเรื่องการผจญภัยยังสนุกสุดหรรษาซะด้วย

อันดับ 2: Marvel’s Spider-Man

จุดเด่นที่สุดของเกมสไปเดอร์แมนเกมนี้คือเนื้อเรื่องของเกมที่สนุกน่าติดตามในสไตล์หนังไอ้แมงมุมมากๆ มีทั้งมุมแอ็กชันปราบวายร้ายในนิวยอร์ก มุมตลกเปิ่นๆ ของปีเตอร์ พาร์คเกอร์ และมุมดราม่าของชีวิตสไปดี้ที่เวิร์กไลฟ์บาลานซ์พังพินาศ เกมสามารถเล่าเรื่องออกมาได้อย่างน่าติดตาม สนุกสนานเฮฮา แต่เวลาฟีลเศร้าเข้ามาก็กระแทกใจแบบจุกๆ

อย่างไรก็ตาม หากจะมีเรื่องหนึ่งที่เด่นกว่าเนื้อเรื่องก็คือความสนุกจากการโหนใยในฐานะสไปเดอร์แมนนี่แหละ เพราะมันให้ความรู้สึกรวดเร็ว ตื่นเต้น และลื่นไหล ราวกับกำลังเล่นเกมสเกตบอร์ดอย่างไรอย่างนั้น แถมยังควบคุมได้ง่ายมากๆ แค่กดไม่กี่ปุ่มสไปเดอร์แมนก็จะออกลีลาสุดเท่ไปเรื่อยๆ ระหว่างเหวี่ยงตัวกลางหาว ดีจนถึงขนาดที่ว่าแค่โหนใยเล่นๆ ไปทั่วเมืองก็เพลินจนลืมเวลา ที่สำคัญคือเกมเพลย์ยังให้คุณรู้สึกว่าตัวเองกำลังปราบเหล่าร้ายในฐานะแมงมุมเพื่อนบ้านที่แสนดีจริงๆ ทั้งในเรื่องความคล่องตัวเวลาออกคอมโบอัดศัตรูกลางอากาศ การใช้แก็ดเจ็ตใยแมงมุมไฮเทคสยบเหล่าร้าย หรือการลงไปเดินแอ็กท่าถ่ายรูปกับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาบนฟุตปาท นอกจากนี้ ใครที่เล่นจบแต่ยังรู้สึกไม่เต็มอิ่มก็ยังสามารถไปต่อกับเกมภาคแยก Miles Morales ที่สนุกพอๆ กันได้ด้วยนะ

อันดับ 1: BATMAN ARKHAM SERIES (Arkham Asylum, Arkham City, Arkham Knight)

เกมไตรภาคที่มีทุกอย่างที่คุณอยากทำในฐานะมนุษย์ค้างคาว ทั้งการเตะต่อยกับเหล่าวายร้ายด้วยลีล่าสุดเท่ ลอบเร้นเก็บศัตรูโดยใช้ความกลัวเป็นอาวุธ ใช้แก็ดเจ็ตค้างคาวไฮเทครับมือแก๊งเหล่าร้าย หรือแม้แต่การซิ่งรถแบทโมบิลออกลาดตระเวนไปบนถนนก็อธแฮม โดยใครที่ชอบเกมแนวฝ่าด่านที่เลเวลและบรรยากาศในเกมได้รับการออกแบบมาอย่างดีน่าจะถูกใจกับภาค Arkham Asylum ส่วนใครที่เป็นขาเกมแนวโลกเปิดกว้าง (Open-World) คงจะถูกใจกับเมืองก็อธแฮมในภาค Arkham City และ Arkham Knight เป็นแน่แท้

ทั้งนี้ เกมทั้ง 3 ภาคจะเล่าเนื้อเรื่องแนวการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่สายดาร์กที่เข้ากับบรรยากาศของเนื้อเรื่องแบทแมนได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญกว่าคือมันยังมีเนื้อเรื่องที่สนุกเข้มข้นทุกภาค ไม่น้อยหน้าไตรภาคหนังแบทแมนของโนแลน โดยตัวเกมยังได้คุณ Kevin Conroy จากแบทแมนภาคการ์ตูนที่เราเคยดูในวัยเด็กมาพากย์เสียงมนุษย์ค้างคาว รวมถึงคุณ Mark Hamill (หรือ Luke Skywalker) มาพากย์เสียง Joker ให้ซะด้วย นอกจากนี้ ภาพกราฟิกในเกมก็สวย ทั้งจากเทคโนโลยีกราฟิกเอนจิ้นที่ใช้และองค์ประกอบศิลป์ที่สวยงามเก็บครบทุกรายละเอียด โดยภาค Arkham Asylum กับ Arkham City อาจสวยออกแนวการ์ตูนคอมิก แต่ภาค Arkham Knight นี่ยกระดับความดูดีขึ้นมาเป็นเหมือนหนังอนิเมชันยุคนี้เลยทีเดียว ใครก็ตามที่เป็นแฟนแบทแมนและเนื้อเรื่องเข้มข้นสไตล์ DC ห้ามพลาดซีรีส์นี้เด็ดขาดครับ

เกมโบนัสปิดท้าย: Batman The Telltale Series & The Enemy Within

นอกจาก 5 เกมซูเปอร์ฮีโร่ที่แนะนำมา ยังมีอีกหนึ่งช้อยส์ที่น่าจะสนองแฟนซูเปอร์ฮีโร่ที่ต้องการเสพย์เกมเนื้อเรื่องเข้มข้นได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือเกม Batman ของทีมพัฒนา Telltale Games ทั้ง 2 ภาค ซึ่งถึงแม้เกมจะไม่ได้มีฉากแอ็คชันดุเด็ดเผ็ดมัน แต่ก็ทดแทนด้วยการนำเสนอตำนานมนุษย์ค้างคาวและโจ๊กเกอร์ที่ตีความใหม่ เน้นไปที่ความดราม่าของพระเอกบรู๊ซ เวย์น ผู้ต้องใช้ชีวิต 2 ด้าน และความสลับซับซ้อนของเส้นเรื่องฮีโร่ที่อะไรๆ ต่างไม่เป็นอย่างที่ตาเห็นจนผู้เล่นคาดเดาไม่ได้ นอกจากนี้ ตัวเกมยังเป็นแนว Point and Click Adventure ซึ่งให้เกมเมอร์เลือกทิศทางที่เกมจะดำเนินเรื่องต่อไป มากกว่าการต้องกดปุ่มบังคับตัวละครให้เก่ง (ถ้าเลือกดีๆ อาจได้ฉากจบที่ต่างจากเดิมลิบลับก็ได้) จึงทำให้เกมเล่นค่อนข้างง่าย เหมาะกับคอซูเปอร์ฮีโร่ทุกท่าน โดยไม่ได้จำกัดอยู่ในหมู่เกมเมอร์ฮาร์ดคอร์อีกด้วย

ที่มาภาพ : 

  • wall.alphacoders.com
  • IMDB
  • eurogamer.com
  • torrent5.net
  • injustice.com
  • store.playstation.com
  • store.epicgames.com
  • store.steampowered.com
  • Telltalegames.com