วิธีลดน้ำตาลในเลือดขณะตั้งครรภ์ ป้องกันเบาหวาน




วิธีลดน้ำตาลในเลือดคนท้อง เป็นเรื่องที่คุณแม่ต้องศึกษาไว้ในช่วงตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลต เบเกอรี่ ขนมหวาน น้ำปั่น น้ำหวาน ล้วนล่อตาล่อใจให้อยากกิน แต่สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้เกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ จนก่ออาการครรภ์เป็นพิษ และอื่นๆ ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นตามมา

เบาหวานในคนท้องเกิดจากอะไร

ว่าที่คุณแม่ที่ตรวจพบเบาหวานมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์มีโอกาสเกิดภาวะแท้ง และความผิดปกติขณะตั้งครรภ์ ได้แก่ ครรภ์เป็นพิษ, แท้ง, ทารกตัวโตกว่าปกติ, คลอดก่อนกำหนด และทารกเสียชีวิตขณะคลอด ส่วนผู้ที่ตรวจพบเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ส่งผลเสี่ยงให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงและต้องผ่าคลอด ไปจนถึงทารกมีตัวโตผิดปกติเนื่องจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจากแม่

วิธีตรวจนำ้ตาลในเลือดเพื่อการวินิจฉัยของคุณหมอ

คุณแม่ควรฝากครรภ์ตั้งแต่รู้ว่าตั้งท้อง เพื่อป้องกันโรคที่เกิดขึ้นกับทารกในครรภ์ โดยมีวิธีการตรวจหาเบาหวาน ดังนี้

ตรวจคัดกรองแบบ Two Step Screening โดยคุณแม่ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร และดื่มน้ำตาลที่ชงด้วยความเข้มข้นต่างกัน ใน 2 ความเข้มข้นของระดับน้ำตาล

อายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ ดื่มน้ำตาล 50 กรัม (Glucose Challenge Test) หลังจากนั้นเจาะเลือดไปตรวจ หากพบว่า Plasma Glucose เท่ากับ 140 mg./dL. หรือมากกว่านี้ ให้รับการวินิจฉัยต่อด้วยวิธี 100 g. OGTT

งดน้ำ งดอาหาร และกลืนน้ำตาล 100 กรัม เรียกวิธีนี้ว่า Oral Glucose Tolerance Test (OGTT) และหลังจากผ่านไป 1-3 ชั่วโมง วัดระดับน้ำตาลดังนี้

1. ขณะอดอาหารก่อนกลืนน้ำตาล 100 กรัม ควรวัดค่าได้ 95 mg./dL.
2. หลังกลืนน้ำตาล 100 กรัม ที่ 1 ชั่วโมง ควรวัดค่าได้ 180 mg./dL.
3. หลังกลืนน้ำตาล 100 กรัม ที่ 2 ชั่วโมง ควรวัดค่าได้ 155 mg./dL.
4. หลังกลืนน้ำตาล 100 กรัม ที่ 3 ชั่วโมง ควรวัดค่าได้ 145 mg./dL.

วิธีลดน้ำตาลในเลือดขณะตั้งครรภ์

หากคุณแม่มีอาการน้ำตาลในเลือดสูง ตรวจพบเป็นเบาหวาน คุณหมออาจแนะนำให้เข้ารับการรักษาด้วยวิธีการฉีดยาอินซูลิน หรือรับประทานยา และมีคำแนะนำสำหรับคุณแม่ที่พบน้ำตาลในเลือดสูงดังนี้

1. ปรึกษานักโภชนาการ เปลี่ยนอาหารลดน้ำตาลจากคาร์โบไฮเดรต หรือผลไม้ที่มีรสหวานจัด
2. เน้นรับประทานอาหารประเภทไฟเบอร์ และโปรตีน
3. หมั่นออกกำลังกายเพิ่มขึ้น

วิธีลดน้ําตาลในเลือด แบบธรรมชาติ และด้วยสมุนไพร

คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดสูง สามารถหาวิธีลดน้ำตาลในเลือดแบบธรรมชาติได้ดังนี้

1. งดข้าว งดของหวาน
หลีกเลี่ยงอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต กินเนื้อสัตว์จำพวกปลา เนื้อไก่ ระหว่างวันดื่มน้ำเปล่าให้เยอะขึ้น

2. งดน้ำหวาน เน้นดื่มน้ำสมุนไพร
คุณแม่ที่ต้องการดื่มน้ำให้สดชื่น ควรเลือกดื่มน้ำสมุนไพร น้ำตาลน้อย เช่น น้ำใบเตย น้ำขิง งดน้ำผลไม้กล่องที่มีน้ำตาลสูง

3. ออกกำลังกาย
คุณแม่ควรลุกเดินออกกำลังกายที่ปลอดภัย เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ได้ทำงานเต็มที่ เลือดหมุนเวียน และรักษาระบบเผาผลาญให้สมบูรณ์

4. ดื่มน้ำเปล่าให้มาก พักผ่อนให้เพียงพอ
ช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะปัสสาวะบ่อย แต่ไม่ควรงดการดื่มน้ำ เนื่องจากน้ำเปล่าช่วยให้ระบบเผาผลาญของร่างกายให้เป็นปกติ เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรดื่มน้ำเปล่าให้มาก เพื่อให้ร่างกายขับของเสียออกมาได้อย่างสมดุล และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อรักษาระบบเผาผลาญให้คงที่

ในช่วงอายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ คุณหมอจะนัดคุณแม่มาฝากครรภ์บ่อยขึ้น เพื่อติดตามสุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ เมื่อมาถึงพยาบาลจะเก็บปัสสาวะ และมีการนัดตรวจน้ำตาลในเลือด หากระหว่างวันนัดหากคุณแม่มีอาการผิดปกติ ก็สามารถมาพบแพทย์ก่อนวัดนัดได้