วันพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว 31 มีนาคมของทุกปี พร้อมประวัติและความสำคัญ




วันพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ตรงกับวันที่ 31 มีนาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ เพื่อระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า หรือ วันมหาเจษฎาบดินทร์ โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ

ประวัติวันพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)

คณะรัฐมนตรีมีมติประกาศเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2535 ให้วันที่ 31 มีนาคมของทุกปี เป็นวันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ “วันเจษฎา” เนื่องจากตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์

พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี รัชกาลที่ 3 เสวยราชสมบัติทั้งหมด 27 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2367-2394

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชสมภพ ณ วันจันทร์ แรม 10 ค่ำ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2330 ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และพระองค์แรกที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเรียม ธิดาพระยานนทบุรีศรีมหาอุทยาน ภายหลังรัชกาลที่ 3 จึงทรงสร้างวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร จ.นนทบุรี เพื่อถวายพระอัยกา พระอัยกี และสมเด็จพระราชชนนี ในปี พ.ศ.2390

รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แต่งตั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุททร เป็น กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในปี พ.ศ.2349 หม่อมเจ้าชายทับ จึงได้รับพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าชายทับ และภายหลังที่พระชนกนาถได้ขึ้นครองราชย์เป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ในปี พ.ศ.2352 พระองค์ก็ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงกรม เป็นพระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2356

กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เสด็จขึ้นครองราชย์วันอาทิตย์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 9 ปีวอก ตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2367 ตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 3 คือรูปปราสาท พระนามเต็มตามพระสุพรรณบัฏว่า “พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช รัตนากาศภาสกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศร์ ตรีภูวเนตรวรนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวไสย สมุทัยดโรมน สากลจักรวาลาธิเบนทร์ สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทราธาธิบดี ศรีสุวิบูลย คุณอถพิษฐ ฤทธิราเมศวร ธรรมิกราชาธิราช เดโชชัย พรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร์ ภูมินทรปรมาธิเบศร โลกเชษฐวิสุทธิ มงกุฏประเทศคตา มหาพุทธางกูร บรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว”

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2394 สิริดำรงราชสมบัติ 26 ปี 255 วัน พระชนมพรรษา 64 พรรษา

พระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ในรัชสมัยของสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ทรงกำกับดูแลงานกรมท่า กรมพระคลังมหาสมบัติ กรมพระตำรวจว่าความตามฎีกา

กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ได้ทรงแต่งสำเภาออกไปค้าขายกับต่างประเทศจนมีรายได้เข้าท้องพระคลังเป็นจำนวนมาก กระทั่งสมเด็จพระบรมชนกนาถทรงเรียกพระองค์ว่า “เจ้าสัว”

เมื่อทรงขึ้นครองราช รัชกาลที่ 3 ทรงปกครองบ้านเมืองอย่างเข้มแข็ง และเพิ่มพูนรายได้ของประเทศด้วยการเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 38 อย่าง เพื่อลดความขาดแคลนเหมือนเมื่อครั้งก่อน และเพิ่มงบประมาณในการป้องกันประเทศ สร้างกองทัพเรือ ขุดคลอง และสร้างป้อมปราการในจุดปากน้ำสำคัญ พร้อมทำนุบำรุงประเทศไปพร้อมๆ กัน

ในช่วงรัชสมัยของพระองค์ได้เก็บภาษีต่างๆ เพิ่มขึ้นมาก จึงนำมาทำนุบำรุงศาสนา บ้านเมือง เมื่อพระองค์สวรรคต มีเงินเหลือจากการใช้จ่ายของแผ่นดินอยู่ 40,000 ชั่ง ทรงมีพระราชปรารภให้ใช้ทำนุบำรุงรักษาวัดที่เสียหายมานับแต่เสียกรุงให้อยุธยาแต่ก่อน จำนวน 10,000 ชั่ง และอีก 30,000 ชั่ง โปรดให้รักษาไว้เป็นค่าใช้จ่ายของแผ่นดินต่อไปในอนาคต จนกระทั่งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ.2436 ได้ทรงนำมาใช้กอบกู้ประเทศให้พ้นวิกฤติข้อพิพาทกับฝรั่งเศส (เหตุการณ์ ร.ศ.112) เรียกเงินก้อนนั้นว่าเงินถุงแดง

พระราชสมัญญานามของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

  • พระมหาเจษฎาธิราชเจ้า
  • พระบิดาแห่งการค้าไทย
  • พระบิดาแห่งการพาณิชย์นาวีไทย
  • พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย

สถานที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดราชนัดดา กรุงเทพมหานคร

วัดราชนัดดา ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดราชนัดดาได้รับการทำนุบำรุงและก่อสร้างโลหะปราสาทตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ.2394 ได้รับการบูรณะหลายครั้งจนสร้างเสร็จในปี พ.ศ.2506

ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ กรุงเทพมหานคร

ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ตั้งอยู่ที่เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ตรงข้ามกับป้อมมหากาฬ ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพมหานคร เดิมพื้นที่ละแวกนี้ถูกบดบังด้วยโรงภาพยนตร์ ภายหลังคณะกรรมการโครงการกรุงรัตนโกสินทร์ได้เสนอให้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยรอบโลหะปราสาท วัดราชนัดดา จึงได้มีมติจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี พ.ศ.2525 และพื้นที่กว้างบริเวณนี้ได้สร้างเป็นลานพลับพลาเพื่อใช้ต้อนรับราชอาคันตุกะ หรือประมุขของประเทศต่างๆ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ คณะกรรมการจึงได้กราบบังคมทูลฯ อัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์และสวนสาธารณะ ในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2533

วัดจอมทอง วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร

วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร หรือ วัดจอมทอง ตั้งอยู่ในแขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง เป็นวัดที่มีมาอยู่ก่อนสร้างเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นวัดประจำรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากเมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ได้ทรงทำพิธีเบิกโขลนทวาร เพื่อให้รบชนะพม่าที่ด่านเจดีย์สามองค์ ทรงอธิษฐานให้ได้ชัยชนะ พม่ายกทัพกลับ พระองค์จึงทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดจอมทองใหม่ และถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า วัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร จ.นนทบุรี

วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา รัชกาลที่ 3 ทรงมีพระราชดำริให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2390 เพื่อระลึกถึงพระอัยกา พระอัยกี และสมเด็จพระราชชนนี เนื่องจากพระอัยกาเป็นพระยานนทบุรีศรีมหาอุทยาน

พระพุทธรูปพระประทานในพระอุโบสถวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหารเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างด้วยทองแดงทั้งองค์ จากการขุดแร่ทองแดงที่อำเภอจันทึก จังหวัดนครราชสีมา พระพุทธรูปทองแดงนี้สร้างคู่กับพระประทานวัดราชนัดดา รัชกาลที่ 4 ถวายพระนามพระประทานว่า “พระพุทธมหาโลกาภินันทปฏิมา”

สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ จ.นนทบุรี

สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงประกอบพิธีเปิดสะพานเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2558 สะพานนี้ได้ก่อสร้างโดยกรมทางหลวงชนบท และก่อสร้างด้วยงบประมาณจากรัฐบาลไทยและเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) อัตราส่วน 30 ต่อ 70 เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2555 เปิดให้ทดลองใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2557 นับเป็นสะพานรถยนต์ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งที่ 7 ตั้งอยู่ในจังหวัดนนทบุรี

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานชื่อสะพานแห่งนี้ว่า “สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์” เนื่องจากเป็นสะพานที่เป็นอนุสรณ์ถึงพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากสะพานนี้อยู่ใกล้กับวัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร ที่รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระอัยกา พระอัยกี และพระราชชนนี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง