ย้อนอดีต ขุดกระดูกรถคูเป้คลาสสิกญี่ปุ่น




ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์จากดินแดนอาทิตย์อุทัยผลิตรถคูเป้เด่นๆ ที่น่าจดจำมากมาย รถเหล่านั้นยังคงอยู่ในความทรงจำ เราจะเห็นรถคลาสสิกชั้นดีแบบนั้นเฉพาะในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น ช่วงปลายยุค 80 ต่อเนื่อง 90 รถสปอร์ตในความทรงจำ เช่น Toyota Celica  MR2 และ Supra, Nissan 200SX, 240Z และ GT-R เจนแรก, Mazda MX-3, RX-7 และ RX-8, Honda S800, Z600 และ Prelude, ยังคงพอมีให้เห็นบนถนน แต่รถสปอร์ตที่หาได้ยาก และอยู่ในตำนานของรถคูเป้ที่ผลิตแค่น้อยนิด แทบจะไม่เห็นกันแล้วถ้าคุณไม่ได้ไปงานรวมรถคลาสสิก หรือชอบเดินตามโรงรถในพิพิธภัณฑ์ที่ต่างประเทศ

ในอดีตเมื่อกว่า 50 ปีก่อน รถยนต์คูเป้ตัวท็อปๆ ที่ขายเฉพาะในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นรถสปอร์ตที่หายาก ผลิตในจำนวนไม่มาก และถูกสงวนไว้สำหรับขายภายในให้กับคนญี่ปุ่นเท่านั้น ต่อไปนี้คือโมเดลคูเป้ที่งดงาม (และมักถูกลืม) ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งไม่เคยขายอย่างเป็นทางการในตลาดโลก มีเพียงไม่กี่คันที่ออกนอกเกาะญี่ปุ่นจากการนำเข้าส่วนบุคคลในภายหลัง รถสปอร์ตโบราณได้รับการยกย่องว่าเป็นรถคลาสสิกที่กลายเป็นที่ต้องการอย่างสูง

Toyota 2000GT – 1967-70
2000 GT Coupe เปิดตัวครั้งแรกในฐานะรถต้นแบบที่มีรูปทรงน่าตื่นตะลึง ในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 12 เมื่อปลายปี พ.ศ. 2508 2000 GT ได้รับการพัฒนาโดยยามาฮ่าและทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นในทันที ลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่ร่ำรวย ต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีที่ Toyota ลงมือผลิตจริง แม้จะแค่นิดเดียวก็ยังดีกว่าเป็นได้แค่รถต้นแบบ

เครื่องยนต์ 6 สูบ กำลัง 152 แรงม้าของ 2000GT วิ่งจากโรงงานออกสู่ตลาดรถหรูในประเทศญี่ปุ่นด้วยรถยนต์รุ่นพิเศษ ของ Toyota ในฤดูใบไม้ผลิปี 1967 การประกอบแบบแฮนด์เมก เครื่องยนต์ส่งตรงไปยัง Yamaha และกำลังจากกระบอกสูบทั้งหกตัว แคมชาร์ปคู่ DOHC ซึ่งยกเครื่องยนต์รุ่นนี้มาจากเครื่องรุ่นท็อปของ Toyota Crown

ตัวเลขสมรรถนะของ Toyota 2000 GT เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประสิทธิภาพของ 2000GT อยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตฝั่งยุโรป มันเป็นรถที่มีชีวิตชีวา ด้วยมาตรฐานร่วมสมัยของงานประกอบ แม้ว่าห้องโดยสารแบบสองที่นั่ง (ออกแบบมาสำหรับลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่มีรูปร่างเล็ก) จะมีขนาดกะทัดรัดเกินไปสำหรับหุ่นของเศรษฐีในอเมริกาและยุโรปที่หนักถึงร้อยกว่ากิโล และเพื่อถ่ายทำหนังเจมส์บอนด์ จีงมีการดัดแปลงเป็น 2000 GT ให้กลายรถเปิดประทุนเพื่อใช้ในภาพยนตร์ 007 Bond ตอน You Only Live Twice ซึ่งถ่ายทำในญี่ปุ่น ปัจจุบัน Toyota 2000 GT เป็นรถญี่ปุ่นระดับสะสมขึ้นหิ้ง มันถูกสร้างขึ้นมาแค่ เพียง 351 คันเท่านั้น และมีมูลค่าการขายเกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐในการประมูล

Mazda Cosmo 110S – 1967-72
Cosmo 110S coupe ถือเป็นรถรุ่นแรกในสายการผลิตเครื่องยนต์โรตารี เปิดตัวในรูปแบบรถสปอร์ตแนวคิดหนึ่งปีเต็ม มียอดการผลิตมากกว่า 2000GT ของคู่แข่ง ในงาน Tokyo Motor Show ปี 2507 Cosmo ฉายแววดังออกมาให้เห็นจากเสียงตอบรับของสื่อมวลชน หลังงานแสดงรถที่โตเกียว รถตัวอย่างก่อนการผลิต 80 คัน ถูกนำไปใช้ในตัวแทนจำหน่าย Mazda เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการขับ ในช่วงปี 2508-2509 เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์สูบหมุน Wankel ที่ Mazda บอกว่า เป็นขุมกำลังที่เข้ามาปฏิวัติวงการ สามารถพิสูจน์ตัวเองว่าใช้งานได้จริงและมีความน่าเชื่อถือในมือลูกค้า 

เมื่อวิศวกรของ Mazda มั่นใจในความทนทานของเครื่องโรตารี่ตัวใหม่แล้ว รถรุ่นแรก Cosmo 110S ก็ออกสู่ตลาดในปี พ.ศ. 2510 โดยมีการผลิตประมาณหนึ่งคันต่อวัน การผลิตรวมตลอดระยะเวลาห้าปีมีจำนวนเพียงแค่ 1,176 คัน เยอะกว่า 2000 GT แต่หายากพอๆ กัน

เครื่องยนต์โรตารี่ 998cc ขนาดกะทัดรัดของ Cosmo มีกำลังแค่ 112 แรงม้าในรถรุ่นแรกสุด รุ่นต่อมาตั้งแต่กลางปี 1968 เป็นต้นไป เบ่งบานพลังงานได้กำลังถึง 130 แรงม้า ส่งผลให้ความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นอีก 8 กิโลเมตร เป็น 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับอัตราเร่งที่เฉียบคมขึ้นเล็กน้อย หลังจากพักไปสามปี Mazda ได้ฟื้นชื่อรุ่น Cosmo สำหรับรถเก๋งครอบครัว เครื่องยนต์โรตารี่ เบาะนั่งแบบ 2+2 ที่หรูหราและแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในปี 1975 โดยมีการกำหนดชื่ออย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเลิกจำหน่ายด้วย Eunos Cosmo coupe เครื่องโรตารี่สามโรเตอรี่ รุ่นที่สี่ในปี 1996 

Prince Skyline Sport – 1962-64
Prince Skyline Sport coupe ที่หรูหราแต่มีราคาแพง เริ่มสร้างกระแสให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นให้หันมาใช้ดีไซเนอร์จาก Turin ความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบรถยนต์ กลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงต้นทศวรรษ 1960 โดยมี Nissan/Datsun, Mazda, Hino, Daihatsu, Suzuki และแบรนด์ญี่ปุ่นอื่นๆ เดินตามเส้นทางการบุกเบิกของ Prince นักออกแบบชาวอิตาลีฝีมือดีที่สุด ถูกโยกมาออกแบบรถใหม่ให้เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วโลก

Giovanni Michelotti นักออกแบบยานยนต์ชื่อดังของตูรินเป็นผู้นำในเวทีนี้ มีการเปิดตัวรถต้นแบบ Prince  Skyline Sport ที่ Turin Salon ในปี 1960 และได้รับเสียงวิจารณ์ไปในทางชื่นชม รถ Prince เวอร์ชันผลิตจริง เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อเดือนเมษายน 1962 ทั้งแบบรถเก๋งสี่ที่นั่งและแบบเปิดประทุน โดยมีรถต้นแบบที่โดดเด่นของ Skyline ซึ่งทำด้วยมือ โดยช่างฝีมือชาวอิตาลีในขั้นต้นซึ่งได้บินมายังญี่ปุ่น โดยได้รับเชิญให้สอนและฝึกอบรมคนงานในสายการผลิตท้องถิ่น เพื่อสร้างรถยนต์ชั้นยอดที่ประณีต

กระบวนการทำงานในครั้งนี้ ทำให้ราคาขายของ Skyline สูงขึ้นเป็นพิเศษ (มากกว่าสองเท่าของรถเก๋งผู้บริหาร Gloria ระดับแถวหน้าของค่าย Prince) ทำให้ผู้ซื้อชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้มากนัก เนื่องจากราคาแพง โดยมีรถเพียง 60 คันเท่านั้นที่ถูกสร้าง Skyline ของ Michelotti มีพื้นฐานมาจากกลไกง่ายๆ ของรถเก๋ง Prince Gloria 1900 รุ่นมาตรฐาน เครื่องยนต์โอเวอร์เฮดวาล์ว OHV สี่สูบ ให้กำลัง 94 แรงม้า เมื่อ Nissan เข้ายึดครอง Prince ในปี 1966 มีการดำเนินการผลิต Skyline รุ่นสปอร์ตอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้เล่นหลักในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Nissan/Datsun โดยนำอนุพันธ์ของคูเป้สองประตูกลับมาใช้ Skyline GT-R (ปัจจุบันกลายเป็นลัทธิไปแล้ว) ในปี 1971 ตามคุณลักษณะเด่นในความสนุกของการขับขี่

Hino Contessa Coupe – 1965-67
ปัจจุบัน Hino เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ที่มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลหลายเท่า ครั้งหนึ่ง Hino เป็นกำลังสำคัญในภาคการผลิตยานยนต์ของญี่ปุ่น ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังขยายตัว มีการสร้างรถ Renault 4CV รุ่นดัดแปลงเฉพาะในญี่ปุ่นภายใต้ใบอนุญาตของภาครัฐ

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง ผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นได้รับการสนับสนุนให้ร่วมมือกับบริษัทต่างชาติที่มีประสบการณ์ เพื่อช่วยสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์นั่งในท้องถิ่นให้กลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง สิ่งนี้นำไปสู่ผู้ผลิตรถบรรทุกที่มีชื่อเสียง Hino ในอดีต เป็นผู้ผลิตรถยนต์ส่วนบุคคลคันเล็กกะทัดรัด เมื่อปี 1953 มีการเริ่มประกอบกับ Renault 4CVs โดย Contessa PC Sedan ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก 4CV เปิดตัวในปี 1961 แต่การออกแบบภายในที่เงอะงะ และไม่มีความสวยงามเอาเสียเลย ทำให้มันขายไม่ค่อยดีเท่าที่ควร

ด้วยการขายที่ขาดจุดเด่น ทำให้ Hino ต้องหันไปทำตามดีไซเนอร์สุดยอดฝีมือจากอิตาลีที่ลงไม้ลงมือในรถ Prince โดยทำการว่าจ้างให้ Giovanni Michelotti ออกแบบ PC Contessa ที่น่าเกลียดใหม่ทั้งหมด หลังจากนั้น Contessa 1300 PD รุ่นที่สองที่สวยงามก็ประสบความสำเร็จมากขึ้น มันเป็นรถเก๋งที่น่าดึงดูดใจโดยเฉพาะรุ่นสี่ประตู คล้ายกับตระกูล Triumph 1300/Dolomite

หกเดือนหลังจากการเปิดตัว รถ Contessa saloon ใหม่ ประสบความสำเร็จพอสมควร Hino ได้แนะนำอนุพันธ์คูเป้สองประตูที่สปอร์ตขึ้น จากการออกแบบแนวหลังคาที่ต่ำลง กระจกบังลมที่ลาดเอียงมากขึ้น และมีเพียงแค่สองประตู รถรุ่นนี้ผลิตแค่ 3,868 คัน ก่อนที่เจ้าของใหม่ของ Hino – Toyota จะยกเลิกการผลิตรถยนต์นั่งทั้งหมด เพื่อมุ่งเน้นไปที่ยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์เท่านั้น นั่นถือเป็นการขัดขวางศักยภาพของ Contessa coupe ก่อนเวลาอันควร

Isuzu 117 Coupe – 1968-81
หนึ่งในสามของ รถแดนปลาดิบทรง coupes ในอดีต ที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียนที่ดูดีเป็นพิเศษในปี 1960 (อีกสองคันคือ Prince Skyline ของ Michelotti และ Mazda Luce R130 ในสไตล์และการตวัดปากกาออกแบบของ Bertone ในปี 1969) Giugiaro ได้วาดภาพ Isuzu 117 coupe ว่าเป็นหนึ่งในผู้ชำนาญด้านการออกแบบชาวอิตาลี แห่งช่วงเวลาดังกล่าว

Isuzu 117 Coupe ถูกนำมาจัดแสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกในรูปแบบของรถต้นแบบที่งานโตเกียวโชว์ ปี 1967 เมื่อ Isuzu เปิดตัว การผลิต 117 ก็เริ่มต้นขึ้นในปี 1968 ความประณีตของการออกแบบโปร่งสบายที่โดดเด่นในปี 1967 โดยอิงจาก Isuzu Florian รถเก๋งและรถเอสเตทของครอบครัวที่ลืมไม่ลงและมียอดขายท่วมท้นในยุคนั้น 117 เครื่องยนต์โบราณขนาด 1.9 ลิตร ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในจำนวนน้อย ในราคาที่สูงเกินไป สถานการณ์นี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในปี 1973 เมื่อเจเนอรัล มอเตอร์สเข้าถือหุ้นใหญ่ในอีซูซุ โดยที่ 117 รุ่นที่มีราคาจับต้องได้ เกิดจากเทคนิคการผลิตจำนวนมากและการประหยัดชิ้นส่วนด้วยวัสดุราคาถูก พร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล (เพื่อสร้างรถเก๋งดีเซลคันแรกของโลก) ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในปี 1978

ตลอดสายการผลิตที่ยาวนานถึง 13 ปีของ Isuzu 117 Coupe ความสวยงามของมันเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การปรับเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวด้วยการเพิ่มล้ออัลลอยด์ สปอยเลอร์หน้าแบบบาง บวกกับไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมสี่ดวงแทนที่โคมไฟกลมสี่ดวงของรุ่นก่อนหน้าช่วงปลายปี 1977 ในที่สุด 117 ก็ถูกแทนที่ในปี 1981 ด้วย Isuzu Piazza ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นรถคูเป้ที่ออกแบบโดย Giugiaro อีกคันและขายได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ตั้งแต่ปี 1985

Nissan/Datsun Skyline GT-R Coupe – 1971-72
ในเดือนสิงหาคม 1966 บริษัท Nissan Motor ได้เข้าซื้อกิจการและควบรวมกิจการกับ Prince ซึ่งเป็นคู่แข่งร่วมสัญชาติในการส่งออกรถไปขายยังต่างประเทศ ค่าย Prince ถือเป็นแบรนด์แห่งศักดิ์ศรีของรถสปอร์ตที่ผลิตในญี่ปุ่น หลังการควบรวม Nissan/Datsun เปิดตัวโมเดลรถสปอร์ตประสิทธิภาพสูง ซึ่งต่อมากลายเป็นลัทธิ Skyline

Skyline เปลี่ยนจาก Prince เป็น Nissan (และ Datsun) ในปี 1968 เมื่อ Prince Marque ถูกยกเลิกสายการผลิต และมีการเปิดตัวรถคูเป้สุดสวยรุ่น C10 

Skyline C10 เจเนอเรชันนี้ เปิดตัวด้วยอนุพันธ์สมรรถนะสูงของ GT-R รุ่นแรกในปี 1970 โดยเริ่มจำหน่ายในรูปแบบรถเก๋งสี่ประตูเท่านั้น สำหรับเรื่องราวของ GT-R coupe ตามมาในต้นปี 1971 เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 162 แรงม้า บล็อก DOHC ซุ้มล้อแบบบานเปิดและไฟท้ายทรงกลม ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นคุณลักษณะการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ GT-R รุ่นหลังๆ เกือบทั้งหมด ดังที่ยังคงปรากฏอยู่ในบั้นท้ายของรถ Nissan GT-R ในปัจจุบัน

มีการส่งออกไปขายในต่างประเทศแค่ไม่กี่แห่ง รถ C10 GT-R ยังคงสงวนไว้สำหรับตลาดบ้านเกิดในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น จนกระทั่ง Datsun Skyline (C110) เจเนอเรชันที่สี่ ได้รับการประกาศเมื่อปลายปี 1972 ว่าจะมีการส่งออกโมเดลไปยังตลาดรถในยุโร โดยได้รับฉายาว่า 240K GT

Suzuki Cervo/Mighty Boy – 1982-88
แม้ว่าจะเป็นที่ยอมรับในฐานะผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ในตลาดส่งออกส่วนใหญ่เป็นเวลาหลายปี แต่ในยุค 80 Suzuki ยังคงไม่เป็นที่รู้จักสำหรับการผลิตรถยนต์สี่ล้อ จนกระทั่งเริ่มส่งออก Jimny 4×4 ขนาดเล็กในช่วงปลายทศวรรษ 1970 รถรุ่นดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ ด้วยเอกลักษณ์ที่แตกต่าง Cervo- SC100 ‘Whizzkid’ เป็นรถคูเป้แบบวางเครื่องด้านหลังที่ถือกำเนิดในปี 1979

Cervo SC100 รุ่นแรกขนาดเล็ก ออกแบบโดยปรมาจารย์อิตาเลียนนาม Giugiaro ถูกแทนที่ด้วย Kei car coupe แบบวางหน้า และขับเคลื่อนล้อหน้าในปี 1982 SS40 Cervo ใหม่นี้ยังคงเป็นคูเป้รุ่นส่งออกและในไม่ช้าก็เข้าร่วมกับคูเป้สุดแปลกที่มาพร้อมชื่อ Suzuki Mighty Boy!

Mighty Boy มีรูปลักษณ์เหมือนรถคูเป้ แต่มีท้ายแบบรถปิกอัพขนาดเล็กที่ดูตลก ส่วนกระบะท้าย มีความยาวไม่เกิน 2 ฟุต (0.6 เมตร) จึงไม่เกิดประโยชน์ในการใช้งานจริงมากนัก แม้ว่าจะมีน้ำหนักบรรทุกถึง 440 กิโลกรัม ค่อนข้างมากสำหรับรถ Kei ขนาดเล็ก น่าเศร้าที่ Mighty Boy ยังคงเป็นโมเดลที่ขายได้น้อย จากความที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง Suzuki เลือกที่จะยุติสายการผลิต เมื่อ Suzuki Cervo รุ่นที่สาม เปลี่ยนจากรถเก๋งเป็น ‘hot hatch’ ในปี 1988.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/