พระสมเด็จบางขุนพรหม ฟอร์มองค์ทรงโย้ แต่พิมพ์พระชัดลึก เนื้อมวลสารแน่นปึ้ก




พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส ของ อุดมเดช รัตนเสถียร.

ใกล้จะสิ้นสุดปีโควิดเข้าไปทีละนิด พร้อมความหวังที่เพิ่มขึ้นทีละหน่อย ว่าโลกจะสยบเจ้าไวรัสตัวแสบได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ระหว่างนี้ ยังมีตัวเก่าตัวใหม่อาละวาดอยู่ ก็ขอให้ท่านผู้ชมรักษาตัวให้ปลอดภัย จะได้เป็นแฟนคลับเวทีนี้กันต่อไป

ไปดูองค์แรกกันเลย มาจากรังของอดีต รมช. อุดมเดช รัตนเสถียร นักการเมืองขวัญใจประชาชน เพราะเป็นคนพูดจริงทำจริง

เล่นพระก็เล่นจริงจัง จนเป็นหนึ่งในนักสะสมพระเครื่องแถวหน้าๆ เพราะสะสมพระหลักๆพระยอดนิยม ระดับเกรด A อย่างองค์นี้ เป็นพระสมเด็จองค์งาม สภาพสมบูรณ์

ฟอร์มองค์ทรงโย้ เอียงเสียศูนย์เล็กน้อย แต่พิมพ์พระชัดลึก เนื้อมวลสารแน่นปึ้ก ตัดขอบถูกต้อง คราบฝ้า รากรุ บางเบา–ครบสูตร สไตล์พระกรุเก่าแบบนี้แหละ ที่ผู้ชำนาญการยกนิ้ว ว่าเป็นพระแท้ดูง่าย และซื้อง่าย-ขายคล่อง เปลี่ยนมือก็มีกำไรแน่

ปัญหามีเพียงหายากมาก เพราะส่วนใหญ่ เจอเจ้าของตัวจริงหมดแล้ว แต่ละคนก็ล่ำซำ ไม่มีความจำเป็นต้องขาย และอยากเก็บรักษาเป็นมรดกลูกหลาน พระจึงหายไปจากวงการ กลายเป็นของหายากขึ้นทุกที คนอยากได้ ก็เลยต้องจ่ายแพง

พระกริ่งพระพุทธชินราช เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๑๓ วัดพันอ้น ของ ส.จ.บอมบ์ เมืองน่าน.

องค์ต่อไป เป็น พระกริ่งพระพุทธชินราช เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๑๓ วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ ของ พระครูศรีปริยัตยานุรักษ์ (ครูบาไฝ) เจ้าอาวาสวัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ ขณะนั้น โดย พระอาจารย์ไสว สุมโน เป็นเจ้าพิธี ช่างเกษม มงคลเจริญ แกะแบบแม่พิมพ์

มีพระเกจิแห่งยุค ๑๙ รูป เข้าร่วมสวดเสก อาทิ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา สมเด็จพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาบันไดอิฐ พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญไชย พระอาจารย์ไสว วัดราชนัดดา

สายเหนือมี ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ครูบาคำแสน วัดสวนดอก ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี

จัดสร้างเป็น เนื้อโลหะ ๓ ชนิด คือ เนื้อทองคำ ๙ องค์ เนื้อเงินไม่ทราบจำนวน เนื้อนวโลหะ ๒,๕๑๓ องค์ ในภาพนี้ ของ ส.จ.บอมบ์ เมืองน่าน เป็นเนื้อทองคำ ๑ ใน ๙ องค์ ที่สวยแกะกล่อง งามสมบูรณ์ เต็มร้อยเดิมๆ ซึ่งถึงปัจจุบัน หายาก เล่นหากันที่หลักล้าน

เหรียญเจ้าสัว รุ่นแรก หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ของ เสี่ยอุดร.

อีกองค์ เป็น เหรียญเจ้าสัว รุ่นแรก พระพุทธวิถีนายก (หลวงปู่บุญ ขันธโชติ) วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม อมตเถระ ผู้ได้ชื่อเป็นพระปฐมาจารย์แห่งเมืองนคร ปฐม

ท่านสร้าง เหรียญหล่อพิมพ์ประกบแบบโบราณ ด้วยเนื้อโลหะ เงิน กับ ทองแดง รูปทรงลวดลาย แบบซุ้มกระจัง ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งสมาธิเพชรห่วงหูเชื่อม ด้านหลังเรียบ มีรอยตะไบ บางเหรียญมีลายมือจาร อักขระ ตัวเฑาะว์

บรรทัดนี้ ขอตอบ คำถามสนามพระ ที่ค้างจะข้ามปีถึง ยันต์เฑาะว์ ซึ่งอ่านว่า ยันต์ฑ้อ ตามแบบโบราณ เกิดจากอักขระ ฑะ แบบเขมร แล้วลากวนไปทิศต่างๆ จะเป็น ยันต์เฑาะว์ ต่างๆ เช่น ยันต์เฑาะว์มหาอุด ยันต์เฑาะว์มหาพรหม

หลวงปู่บุญ ใช้ ยันต์เฑาะว์ จารหลังวัตถุมงคล เพื่อให้มีอานุ ภาพสูง เพราะเกิดจากผู้ทรงศีลมีอภิญญา ๑๐๘ คน ร่วมกันชักยันต์ และเป็นยันต์ที่รวม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ไว้ในตัวเดียว

การชักยันต์ ก็คือการเขียน โดยลากเส้นและลงอักขระ เป็นรูปยันต์ต่างๆ โดยบริกรรมคาถาไปด้วยระหว่างลากเส้น มีว่า เฑาะว์ รัน โต ศี ละ สมาธิ เฑาะว์ รัน ตัน ติ นะ มะ ถุ โน เฑาะว์ รัน โต นะ กัม รัถ ฐา นัง เฑาะว์ พุทธ นะ มา มิ หัง เฑาะว์ อุ ณา โล มา สัม ปะ นะ ชา ยะ เต–นอกจากป้องกันภูตผี ยังใช้แก้โรคภัยไข้เจ็บ เกจิยุคโบราณ จึงนิยมเรียนยันต์นี้ โดยเฉพาะสายวัดกลางบางแก้ว และเกจิสายนครปฐม

กลับมาถึง เหรียญหล่อท่าน ว่าตอนนี้ เป็น เหรียญพระเกจิฯ ราคาหลักล้าน ที่มีของเก๊หลายฝีมือระบาดมานานมาก จะหาใช้บูชา ก็ต้องละเอียดรอบคอบ แม่นยำ จดจำพิมพ์พระ จุดตำหนิ ความคมชัดของเส้นสายลายศิลป์ ทิศทางการแทงเส้น (ความหยาบ) ตะไบ ร่องรอยประกบพิมพ์ คราบดิน ขี้เบ้ารอยพรุนบนผิวเนื้อ ซึ่งเป็นธรรมชาติของเหรียญหล่อโบราณ อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยอุดร เจ้าของซอสหอยนางรม ตรานกทะเล ที่เป็นเหรียญสภาพงามแชมป์ ซึ่งมีจุดพิจารณา ที่ส่องเห็นชัดเจนดูง่ายทุกจุด

เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๓ เนื้อทองแดง หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ของ มีชัย เถาเจริญ.

รายการถัดไป เป็น เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๗๓ เนื้อทองแดง หลวงพ่อพระอุปัชฌาย์อี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี พระอมตะเกจิอาจารย์ ผู้มีชื่อเสียงกึกก้อง สร้างพระเครื่องเมฆพัตร สามหน้า สี่หน้า ของขลัง ตะกรุด ผ้ายันต์

และที่มีชื่อเสียงสูงสุดคือ ปลัดขิก (ทวนน้ำ) ที่ท่านสร้างให้ศิษย์ ส่วนใหญ่เป็นทหาร ก็นำบูชาติดตัว ไปร่วมรบในสงครามอินโดจีน ก็พบอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ด้านแคล้วคลาดคงกระพัน เป็นที่เลื่อง ลือ

ทำให้ทหารจากเมืองชลฯ ส่วนใหญ่กลับบ้านแบบครบ ๓๒ ท่านจึงได้รับ ยกย่องเป็น ๑ ใน ๔ พระเกจิฯ สงครามอินโดจีน ที่มีชื่อเสียง ว่า จาด จง คง อี๋

ซึ่งหมายถึง ๑. หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี ๒. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา ๓. หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม จ.สมุทรสงคราม และ ๔. หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ

ท่านเป็นชาวเมืองชลฯ เกิดปี พ.ศ.๒๔๐๕ อุปสมบท ที่วัดอ่างศิลา โดยมี หลวงพ่อจั่น วัดเสม็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับนามฉายา “พุทธสโร” อยู่เรียนวิชากับพระอุปัชฌาย์แล้ว ก็ออกธุดงค์ ได้เรียนวิชากับพระเกจิอาคมเข้มขลัง อาทิ หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน จ.สมุทรปราการ หลวงพ่อแตง วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี

เหรียญรุ่นแรกนี้ ท่านอนุญาตให้คณะศิษย์จัดสร้าง มอบเป็นที่ระลึกผู้บริจาคทรัพย์ในการเททองหล่อพระประธาน เพื่อประดิษฐานในพระอุโบสถ เป็น เหรียญปั๊ม ทรงกลมรูปไข่ใหญ่ เนื้อเหรียญมี เงิน ทองแดง แบบเหรียญนี้ ของ เสี่ยมีชัย เถาเจริญ ซึ่งเป็นเหรียญสภาพสมบูรณ์–สวยแชมป์เดิมๆแบบนี้ ปัจจุบันต้องย้ายกุฏิกันหลายล้าน ขอบอก

เหรียญพัดยศ เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๑๖ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ของ ต้น วังหลัง.

ต่อด้วยอีกเหรียญดัง คือ เหรียญพัดยศ เนื้อทองคำ พ.ศ.๒๕๑๖ พระสังวรพิมลเถระ(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ สร้างเป็นเหรียญที่ระลึกตอนหลวงปู่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระราชสังวรวิมลเถระ

มีเนื้อ ทองคำ ๔๙ เหรียญ เนื้อเงิน ๕๐๐ เหรียญ นวโลหะ ๑,๐๐๐ เหรียญ ทองแดง ๕,๐๐๐ เหรียญ ปัจจุบันหายากขึ้น เพราะจำนวนสร้างน้อย

เป็นเหรียญที่มีเสียงเลื่องลือเด่นชัด ด้านเมตตา ค้าขาย แล้วยังเป็นเหรียญมาแรง ด้านเสริมอำนาจวาสนา ขยับขั้นเลื่อนตำแหน่ง–ราคาค่า เหรียญเนื้อทองคำ สภาพสมบูรณ์งามเนี้ยบ อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยต้น วังหลัง ฟังว่า ทะลุล้าน ไปนานแร้ว

เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๓ เนื้อเงินลงยา หลวงพ่อทบ ออกวัดทรงธรรม ของ เสี่ยอาทร สุพรรณธริกา.

ดูกันอีกเหรียญ เป็น เหรียญรุ่นแรก พ.ศ.๒๔๘๓ เนื้อเงินลงยา หลวงพ่อทบ ออกวัดทรงธรรม จ.เพชรบูรณ์ ของ เสี่ยอาทร สุพรรณธริกา

หลวงพ่อ เป็นอมตะพระเกจิฯ ที่ได้รับยกย่องเป็น “เทพเจ้าของชาวเพชรบูรณ์” ด้วยวัตรปฏิบัติ ที่เป็นพระแท้วิชาอาคมขลัง และมีเมตตาช่วยผู้ตกทุกข์

พระเครื่องของขลังหลายรุ่นของท่าน มีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ด้านแคล้วคลาด คงกระพันและเมตตาค้าขาย จึงได้รับความนิยมสูง ในราคาหลักหมื่นจนถึงหลักล้าน–อย่างเหรียญนี้ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ก็มากล้าน

เหรียญรุ่นอายุ ๙๐ ปี พ.ศ.๒๕๒๗ เนื้อเงิน หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม ของ พ๊อต นครชัยศรี.

วันนี้เป็นสนามเหรียญ เพราะอีกองค์ เป็น เหรียญรุ่นอายุ ๙๐ ปี พ.ศ.๒๕๒๗ เนื้อเงิน หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม จ.ราชบุรี พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างชื่อเสียง ด้วยการสร้างพระเครื่อง วัตถุมงคล ด้วย ยันต์หนุมานเชิญธง มีชื่อเสียงแพร่หลายสูง ๔๐ ปีที่ผ่านมา งานพุทธาภิเษก ต้องมีชื่อท่านเข้าร่วมนั่งปรกปลุกเสกทุกงาน

ท่านสร้างพระเครื่องของขลัง โดยเฉพาะ พระเครื่องหลังยันต์หนุมาน ไว้หลายรุ่น ล้วนได้รับความนิยมมาก อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยพ๊อต นครชัยศรี ปัจจุบัน เป็นรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมที่สุด และหายากสุดๆ

พระยอดขุนพลนาน้อย กรุวัดนาหลวง ของ ส.จ.บอมบ์.

ตบท้ายกันด้วย พระยอดขุนพลนาน้อย กรุวัดนาหลวง อ.นาน้อย จ.น่าน สุดยอดพระกรุเนื้อชินเบอร์ต้น ของเมืองน่าน ค้นพบที่กรุพระบ้านนาหลวง อ.นาน้อย จ.น่าน แต่ พ.ศ.อะไรไม่มีหลักฐาน บอกแต่ว่า พบจากองค์พระเจดีย์ที่ชำรุดตามธรรมชาติ บรรจุอยู่ในบาตรใหญ่

เป็น พระเนื้อชิน เนื้อดิน และ เนื้อว่านผสมผง หลายขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ เนื้อชินมีราว ๑,๐๐๐ องค์ ผิวสนิมตีนกา รายละเอียดในพระพักตร์ชัดเจน พระเนตรโปน อกนูน ผนังด้านหลังพระเกศ มีประภามณฑล ด้านข้างมีใบบัว รัศมีด้านหลังเรียบ มีศิลปะค่อนข้างหยาบ ลวดลายแบบเชียงแสนล้านนา มีคราบสนิมกรุ ผิวฝ้า ความเก่า บอกอายุได้ตามธรรมชาติ

ปัจจุบัน พระยอดขุนพลกรุนาน้อย เป็นพระกรุยอดนิยมสายเหนือ ที่หายาก องค์นี้ ของ ส.จ.บอมบ์ เมืองน่าน เป็นพระสภาพสมบูรณ์สวยแชมป์ของกรุองค์หนึ่ง

ขอลา สนามพระวิภาวดี ปี ๒๕๖๔ ภาคปกติ เพราะต่อไป จะเป็น สนามพระหน้าพิเศษ ส่งท้ายปีเก่า แต่จะเป็นอะไร ยังคิดไม่ออก บอกไม่ได้ ขอไปนั่งทางในก่อน

เรื่องปิดท้ายวันนี้ เกิดที่ลานพิธี ซึ่งพราหมณ์จัดบวงสรวง อ่านโองการ บอกกล่าวเทวดาฟ้าดิน ขอจัดงานประเพณีของวัดใหญ่ใกล้ กทม.

พอพราหมณ์สวดมนต์พิธีจบ ก็มี นายละม้าย ที่ได้ชื่อเป็นนักเลงใหญ่ในพื้นที่ โดดออกมากลางลาน เต้นแร้งเต้นกา ส่งเสียงคำราม กระโดด โลดเต้น แต่ดูแล้วท่าเสือก็ไม่ใช่หนุมานก็ไม่เชิง คนจำนวนร้อยในลานพิธี ก็มุงดูอย่างตื่นเต้นสนใจ

กรรมการวัด ๔-๕ คน ก็พยายามเข้าห้าม กอดรัดฟัดเหวี่ยง ก็เอาไม่อยู่ สู้แรง เสือบวกหนุมาน ไม่ได้ จนผู้ชมที่เป็นคนพื้นที่ ซึ่งรู้จัก นายละม้าย ดี ตะโกนบอก ของมันขึ้น แรงคนเอามันไม่อยู่หรอก ต้องไปบอก หลวงพ่อมาจัดการ

หลวงพ่อเจ้าอาวาสรู้เรื่อง ลงมาดูเห็น นายม้าย กำลังอ่อนแรง ก็เดินเข้าไปใกล้ ก้มกระซิบข้างหูชั่วครู่ นายม้าย ก็ลุกขึ้น ทำท่าฮึดฮัด เฮือกสุดท้าย แล้วล้มลงหมอบนิ่งสนิท หมดฤทธานุภาพ

คนจึงตะโกนบอก ของมันออกแล้ว และวิ่งเข้าไปหามมานอนแผ่ในศาลา ครู่ใหญ่ก็ได้สติ พรรคพวกจึงรุมถามว่า หลวงพ่อสวดคาถาอะไร บทไหน ใส่หูเอ็ง ของถึงได้ออกเร็วแบบนั้น

นายม้าย หน้าจ๋อย บอกว่า หลวงพ่อไม่ได้สวดมนต์เลย แต่บอกว่า ถ้าไม่เลิกบ้า จะไปบอกเมียข้า มาจัดการ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.

สีกาอ่าง