ทดสอบรถเล็กประหยัดน้ำมัน SUZUKI SWIFT GLX CVT รุ่นเพิ่มอุปกรณ์




Suzuki new Swift เจเนอเรชันที่ 3 รถเล็กรุ่นสำคัญในตลาดอีโคคาร์ของ Suzuki ราคา 629,000 บาท ในรุ่นปรับโฉม GLX แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างรถยนต์ไซส์คอมแพกต์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า Swift GLX รุ่นเพิ่มอุปกรณ์ มาพร้อมกับรูปลักษณ์ที่ลงตัว แม้ตัวถังจะเล็กแต่พื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารก็พอเพียงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร รหัส K12M ติดตั้งหัวฉีดคู่ Dual jet เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฉีดจ่ายเชื้อเพลิงและลดอัตราสิ้นเปลืองให้ดีขึ้นกว่าเดิม กำลัง 83 แรงม้า กับแรงบิด 108 นิวตันเมตร ไม่มากมายอะไร แต่เหมาะสมกับขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบา ทำให้เกิดความคล่องแคล่วว่องไวเมื่อขับใช้งานในเมือง

new Swift GLX CVT มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ใบหน้าที่ออกแบบให้ดูอ่อนเยาว์ เหมือนรถเด็กเล่นคันเล็กที่ใช้งานได้จริง GLX 2022 ติดตั้งไฟหน้า LED โปรเจกเตอร์ ให้กำลังในการส่องสว่างมากกว่าเดิม ไฟหน้ายังมีไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Lights กระจังหน้าแบบใหม่สไตล์รังผึ้ง สปอยเลอร์หน้าออกแบบให้เข้ากับรูปทรงของกระจังและไฟหน้าเพื่อความกลมกลืน กรอบกระจกมองข้างติดตั้งไฟเลี้ยวเพื่อความปลอดภัย บานประตูหลังทำเท่ด้วยการย้ายมือจับที่เปิดประตูไปแปะติดอยู่กับเสาท้ายคล้ายรถ Coupe ฝาท้ายเปิดได้ในมุมยกที่ค่อนข้างกว้าง พื้นที่เก็บสัมภาระท้ายขนาดความจุ 265 ลิตร เบาะหลังปรับราบกับพื้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนของ ไฟท้ายแบบใหม่หลอด LED พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม ล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้วกับยาง 185/55R16

แพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้ new Swift มีน้ำหนักลดลงแต่คงความแข็งแกร่ง น้ำหนักที่เบาขึ้นช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบกันการสั่นสะเทือน ระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง เหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ IDLING STOP ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ระบบ Hill Hold Control ที่จะช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และปลอดภัยมากขึ้นด้วยถุงลมนิรภัย SRS ถึง 6 ตำแหน่ง

มิติของตัวรถมีความสูงอยู่ที่ 1,495 มิลลิเมตร เตี้ยลง 15 มิลลิเมตร ความกว้างตัวถังที่ 1,735 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 40 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับ Swift รุ่นที่แล้ว ส่วนความสูง 1,495 มิลลิเมตร แม้จะลดลงแต่แพลตฟอร์มใหม่ทำให้ภายในมีความโปร่งโล่งมากกว่ารุ่นที่แล้ว ความยาวฐานล้อ 2,450 มิลลิเมตร เพิ่มขึ้นอีก 20 มิลลิเมตร เพื่อการยึดเกาะที่ดีขึ้น ความกว้างล้อหน้า 1,520 มิลลิเมตร หลัง 1,525 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดทำได้ 4.8 เมตร จากโอเวอร์แฮงค์ที่สั้นกระชับ ส่วนความสูงจากพื้นถนนถึงใต้ท้องอยู่ที่ 120 มิลลิเมตร ความจุถังเชื้อเพลิง 37 ลิตร น้ำหนักตัวรถทั้งคันในรุ่น GLX CVT อยู่ที่ 910 กิโลกรัม เบากว่ารุ่นเดิม 85 กิโลกรัม น้ำหนักที่เบาขึ้นเกือบ 100 กิโลกรัม ส่งผลไปถึงสมรรถนะที่ดีกว่าเดิมพอสมควร

งานตกแต่งภายในที่ทันสมัยน่าใช้งานของ Suzuki SWIFT GLX จัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ใช้งานเยอะพอสมควร จอภาพมอนิเตอร์ระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว มีฟังก์ชันกล้องมองหลังพร้อมเส้นระนาบในการกะระยะที่คมชัดใช้ได้ จอภาพควบรวมถึงการต่อเชื่อม AUX-USB iPOD MP3 WMA Bluetooth รองรับ apple carplay และ android auto ที่จัดมาให้ครบพร้อม ช่องจ่ายไฟ 12 V สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ หากไม่ชอบใช้งานจอภาพก็เลือก Swift รุ่น GL ไปเลยจะประหยัดเงินได้หลายหมื่น แต่ถ้าอยากได้จอภาพพร้อมระบบนำทางเนวิเกเตอร์ที่เปิดใช้งานผ่าน apple carplay ก็ต้องเลือกรุ่น GLX กล้องมองหลังที่ติดมาให้ เพิ่มความปลอดภัยเวลาขับถอยหลัง ส่วนฟังก์ชันต่างๆ ที่ใส่มาให้ในจอภาพระบบสัมผัสก็มีความครอบคลุมในการใช้งาน เครื่องเสียงลำโพงมีคุณภาพพอใช้ได้ ฟังก์ชันปรับเสียง ทำให้เสียงเพลงที่เล่นผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ใช้ได้เลยทีเดียว แต่ถ้าอยากให้คมชัดและกระหึ่มมากกว่าของเดิมจากโรงงานก็ต้องดิ้นรนไปร้านเครื่องเสียงเพื่ออัปเกรดกันเอาเอง 

เบาะนั่งของ Swift GLX สอดรับกับสรีระได้ดี เบาะหุ้มด้วยผ้าสีดำ มีลวดลายแฉกเล็กๆ ที่ทำให้ดูแปลกตา เบาะคู่หน้าปรับด้วยมือ เบาะหลังปรับพับแบบแยกกันได้สองส่วน พื้นที่ของเบาะหลัง แม้จะเป็นถขนาดเล็ก เมื่อลองนั่งดูก็พบว่าไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด การใช้งานรถเล็กที่ส่วนใหญ่มักจะขับไปไหนมาไหนคนเดียว แต่ถ้าต้องขนผู้โดยสารอีก 3-4 คนก็ยังสามารถทำได้ แม้จะไม่สบายตัวเพราะต้องนั่งเบียดกัน แต่ก็ยังดีกว่านั่งไม่ได้ พื้นที่วางเท้ากับพื้นที่เหนือศีรษะของเบาะผู้โดยสารตอนหลัง การออกแบบที่เน้นความโปร่งโล่ง ทำให้ผู้โดยสารที่เบาะหลังสองตำแหน่งนั่งโดยสารทางไกลได้โดยไม่สร้างปัญหาเมื่อยเนื้อปวดตัวเท่าไหร่นัก ทรงของเบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตมีความสวยงามน่าใช้ แต่วัสดุพวกผ้าสีดำที่ใช้หุ้มต้องมีการใส่ใจดูแลเรื่องความสะอาดมากกว่าเบาะหนัง เบาะคนขับสามารถกดปรับลงต่ำได้มากกว่ารุ่นที่แล้วเล็กน้อย ส่วนเบาะผู้โดยสารตอนหลัง ปรับพับได้ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ เบาะหลังแม้จะออกแบบให้นั่งได้สามคนพร้อมเข็มขัดนิรภัย 3 ตำแหน่ง แต่คนนั่งตรงกลางต้องเป็นเด็กเล็กเท่านั้น หากเป็นผู้ใหญ่มานั่งมีหวังได้เมื่อยกันน่าดู เบาะหลังสำหรับผู้ใหญ่ที่ออกแบบให้นั่งได้สบายขึ้น เนื่องจากความลาดเอนของเบาะหลังนั้นมากกว่ารุ่นที่แล้วซึ่งตั้งชันมากจนนั่งไม่ค่อยจะสบายตัวเท่าที่ควร

แผงควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารสวยงามน่าใช้ งานตกแต่งภายในของ Swift มีดีไซน์ที่ทันสมัย วัสดุพวกพลาสติก ผ้าและหนังสังเคราะห์ มีผิวสัมผัสที่ไม่แย่จนเกินไป แม้จะมีราคาแค่ 6 แสนบาท แต่วัสดุภายในไม่ได้ดูแย่เหมือนรถบางยี่ห้อ โดยเฉพาะพลาสติกภายในนั้นถือว่าทำออกมาดูดีมีราคา แผงคอนโซลคาดกลางด้วยพลาสติกสีขาว ส่วนชุดควบคุมอุณหภูมิออกแบบให้เป็นสวิตช์ทรงกลมที่ใช้ปรับตั้งระดับความแรงของพัดลมแอร์ สวิตช์ควบคุมทิศทางของพัดลมแอร์ และสวิตช์เพิ่มหรือลดน้ำยาแอร์ กึ่งกลางของแผงควบคุมอุณหภูมิใช้จอภาพทรงกลมเล็กๆ เป็นหน้าจอดิจิทัลคอยแจ้งเตือนการทำงานของระบบปรับอากาศในห้องโดยสาร ระบบแอร์ของ Swift GLX มีแผงกรองฝุ่นขนาดเล็กติดตั้งมาให้ใช้งาน 

พวงมาลัยของ Swift 1.2 GLX CVT ออกแบบใหม่หมดโดยใช้รูปทรงและวัสดุที่ดีขึ้น พวงมาลัยทรงสามก้านแบบฐานตัดหรือ D-shape หุ้มหนังแท้ ก้านพวงมาลัยด้านซ้ายมีสวิตช์ปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ก้านวงด้านซ้ายติดตั้งสวิตช์สั่งงานระบบเครื่องเสียง รวมถึงปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์บลูทูธ แม้จะยังไม่มีแป้นเปลี่ยนเกียร์เหมือน Swift RX II เจเนอเรชันที่ 2 แต่ปุ่มแตรทรงกลมกับพวงมาลัยฐานตัดนั้นทำออกมาได้สวยงามน่าใช้งาน พวงมาลัยของ Swift GLX CVT ออกแบบให้สามารถปรับได้ 4 ทิศทาง เช่น ปรับระดับความสูง-ต่ำ หรือปรับระยะใกล้-ไกลของพวงมาลัยให้ครอบคลุมสรีระของคนขับ รูปทรงของพวงมาลัยและวัสดุที่ใช้ถือว่าทำออกมาได้ดี 

มาตรวัดและพวงมาลัยมาตรวัดสไตล์สปอร์ตทรงกระบอกตกแต่งด้วยลายเส้นสีแดง กึ่งกลางของมาตรวัดติดตั้งจอแสดงข้อมูลขับขี่ MID multi information display แบบ LCD เป็นมาตรวัดที่มีรายละเอียดสวยงาม อ่านค่าได้ง่าย ทั้งมาตรวัดรอบเครื่องยนต์และวัดความเร็ว

คอนโซลกลางต่ำลงมาเป็นที่อยู่ของคันเกียร์อัตโนมัติ CVT มีตำแหน่ง D และ L รวมถึงสวิตช์เล็กๆ ข้างคันเกียร์ที่ใช้กดเพื่อยกเลิกเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ในตำแหน่ง S คันเบรกมือยังมีมาให้เหมือนเดิมสำหรับนักขับรุ่นเก๋าที่ยังนิยมคันเบรกมือมากกว่าสวิตช์เบรกมือไฟฟ้า ช่องวางแก้วน้ำและช่องใส่ของกระจุกกระจิกก็มีมาให้ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้ดี รวมไปถึงช่องชาร์จไฟ 12v และช่องเสียบ USB เรียกว่าจัดกันมาครบเลยทีเดียว

เครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว 4 วาล์วต่อสูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Dual VVT วางตามขวางขับเคลื่อนล้อหน้า รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร ปริมาตรความจุ 1,197 ซีซี ความกว้างกระบอกสูบ 73.0 มิลลิเมตร ช่วงชัก 71.5 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 11.0:1 ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบจ่ายเชื้อเพลิงใช้หัวฉีดมัลติพอยท์ รองรับเชื้อเพลิง E20 เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบ Direct ignition coil เพื่อความแม่นยำในการจุดระเบิด พร้อมระบบ EGR cooler เพื่อลดมลพิษ เป็นเครื่องยนต์อีโคคาร์รุ่นใหม่ที่ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ EURO-5 ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ขับเคลื่อนล้อหน้าแบบ CVT ระบบรองรับด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีมคานแข็ง ระบบเบรกของรุ่น GLX CVT เบรกหน้าและหลังใช้ดิสก์เบรกทั้งหมด

ออกทางไกล ลากไปทดสอบกันถึงอำเภอหนองปรือ ในจังหวัดกาญจนบุรี ระบบรองรับของ Swift หน้าเป็นแมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพและกันโคลง ส่วนช่วงล่างหลังเป็นแบบทอร์ชันบีมคานแข็ง การปรับเซตช่วงล่างให้ความรู้สึกดี กระชับและนิ่มนวลในเมือง ขับเร็วๆ ก็ยังเกาะถนน อาการร่อนหรือโคลงเมื่อหวดกันหนักๆน้อยจนทำให้มั่นใจแม้จะมีขนาดเล็ก ระยะยืดและยุบตัวที่มากไปนิดของโช้คอัพ ควรระวังรอยต่อพวกคอสะพานหรือที่กั้นถนนเพื่อลดความเร็ว ขับทางไกลช่วงล่างให้ความสบายตัว ซึมซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีพอๆ กับ Mazda 2 1.3 ล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้ว ยัดยาง 185/55R16 เป็นยางหน้าแคบที่เน้นลดอัตราสิ้นเปลือง เจ้าของบางคนอาจมองว่าเล็กเกินไป ชอบยางไซส์ 195 หรือ 205 มากกว่า เนื่องจากชอบการยึดเกาะแบบหนึบๆ เมื่อเปลี่ยนยางให้มีหน้าสัมผัสใหญ่ขึ้น การยึดเกาะกับผิวถนนก็จะเพิ่มขึ้น แต่แลกกลับด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่ลดลง หรือพูดกันตรงๆ ก็คือมันจะกินน้ำมันมากขึ้นอีกนิด บางคนก็เอาไปใส่โช้คและสปริงที่มีคุณภาพดีกว่าของโรงงาน โดยพยายามรักษาขนาดของล้อเอาไว้ไม่ให้ใหญ่เกินไป ปรากฏว่าวิ่งในโค้งดีกว่าเดิมแต่ก็จะมีอาการกระด้างอยู่บ้าง เนื่องจากโช้คเดิม เซตค่ามากลางๆ ให้ขับเร็วได้มั่นใจและวิ่งนุ่มนวลพอได้

เครื่อง K12M ความจุไม่มาก ไม่มีเทอร์โบแต่ตอบสนองดี เมื่อลองขับแบบกดหนักๆ ต่อเนื่องก็ยังประหยัดน้ำมัน เนื่องจากมีน้ำหนักไม่ถึง 1 ตัน ทำให้เครื่องยนต์ตัวจ้อยไม่ต้องแบกน้ำหนักรถเยอะเกินไป เมื่อลองอัดหนักๆ แบบกดคันเร่งต่อเนื่องขับแบบจัดเต็ม อัตราสิ้นเปลืองหล่นลงไปเหลือ 15 กิโล-ลิตร ก็ยังถือว่าประหยัดมากอยู่ในขณะที่โซฮอล์ 91 ลิตรละ 38-39 บาทเข้าไปแล้ว ขับในเมืองคล่องตัวดีมาก โดยเฉพาะการเลี้ยวกลับลำหรือการจอดในพื้นที่คับแคบ เครื่องยนต์เร่งความเร็วได้ทันใจดี แม้จะไม่ได้แรงจนดึงชนิดหลังติดเบาะแต่ก็ไม่อืด อัตราเร่ง 0-100 ของ Swift GLX อยู่ที่ตัวเลข 13 วินาทีนิดๆ อยู่ในอันดับต้นๆ ของรถเล็กที่มีเครื่องยนต์ความจุไม่เกิน 1.2 ลิตร หวดกับ Mazda 2 1.3 เพื่อลองตีนต้นก็สูสีกันมาก วิศวกรของ Suzuki แจ้งว่าความเร็วสูงสุดของ Swift รุ่นใหม่สามารถไหลไปได้ถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงบิด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที สมน้ำสมเนื้อกับรูปทรงและน้ำหนักของตัวรถ ส่งผลให้ Swift 1.2 GLX CVT รุ่นรองท็อปเป็นรถเล็กที่ขับสนุกเอาเรื่องลองความเร็วไปจนถึง 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็ยังนิ่งใช้ได้ แต่ความเร็วที่เหมาะสมและควบคุมรถได้ง่ายกว่าก็คือย่าน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

เกียร์อัตโนมัติ CVT เป็นชุดส่งกำลังของรถเล็กราคาถูก มักจะให้ประสิทธิภาพแบบย้วยๆ รวมถึงการตอบสนองต่อการเร่งความเร็วแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่จี๊ดจ๊าดเท่าที่ควร แต่เกียร์ CVT ของ Swift ที่มีปุ่ม Sport รวมถึงตำแหน่ง L ให้ใช้งานเมื่อต้องการไปให้เร็วขึ้นก็ต้องขับแบบลากรอบการตอบสนองต่อการเร่งความเร็วผ่านชุดส่งกำลัง CVT ก็จะดีขึ้นแต่อัตราสิ้นเปลืองก็จะเพิ่มขึ้น ใครไม่กลัวเรื่องประหยัดชอบจัดหนักก็ต้องยัดเกียร์ L ลากรอบเล่นในเมืองรับรองว่าสนุกแน่ๆเมื่อเห็นรอบเครื่องยนต์ป้วนเปี้ยนอยู่แถว 4,500 – 5,000 รอบต่อนาที แต่ขับแบบนั้นมันกินน้ำมันนะครับ 

การปรับเซตระยะหมุนกับน้ำหนักที่แปรเปลี่ยนไปเมื่อทำความเร็ว พวงมาลัยไฟฟ้าใน Suzuki Swift ทำออกมาได้ดีในระดับที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว พวงมาลัยไฟฟ้ามีรูปทรงสวยงาม จับได้กระชับมือดีมาก ทรงของพวงมาลัยแบบฐานตัดช่วยให้การเข้า-ออกจากเบาะคนขับสะดวกขึ้นเล็กน้อย ความแม่นยำขณะเปลี่ยนทิศทางและน้ำหนักที่เหมาะสมเมื่อขับเร็วๆ ทำให้พวงมาลัยไฟฟ้าของ Swift กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้มันเป็นรถเล็กขับสนุก คล้ายกับพวงมาลัยของ Mazda 2 1.3 ทั้งสัมผัส ระยะฟรีตรงกลางที่ไม่มาก กระชับและมีความแม่นยำ

ดิสก์เบรกใส่มาให้ทั้งหน้าและหลัง ขับบนเส้นทางภูเขาที่มีโค้งขึ้นลงเนินวกไปวนมา เบรกเอาอยู่ แถมการถ่ายเทน้ำหนักเมื่อลงเบรกหนักๆ ก็ดีใช้ได้ เบรกพร้อมตัวช่วยอย่าง ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ชุดกระจายแรงเบรก EBD ทำงานร่วมกับ ระบบควบคุมเสถียรภาพ ESP และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS ทำให้การควบคุมรถเมื่อฝนตกก็ไม่น่ากลัวเหมือนรถเล็กยี่ห้ออื่น การถ่ายเทน้ำหนักเมื่อลงเบรกลึกๆ อาการหน้ายุบท้ายยกมีไม่มาก การเบรกหนักๆ ในย่านความเร็วสูงก็ใช้ได้ การออกตัวอย่างรวดเร็ว มีอาการดึงที่พวงมาลัยไม่มาก รวมถึงเมื่อใช้เบรกเต็มที่ก็ยังประคองพวงมาลัยหลบสิ่งกีดขวางได้ เมื่อต้องใช้เบรกพร้อมๆ กับใช้พวงมาลัยหักหลบไปมา

สำหรับฟีเจอร์ใหม่ใน Swift GLX 2022 มาพร้อมกระจังหน้าสไตล์สปอร์ตตกแต่งลายเส้นโครเมียม ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยปัดเงาขนาด 16 นิ้ว วัสดุตกแต่งคอนโซลและแผงประตูหน้าสีเงิน จอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto กล้องมองหลัง กับราคา 629,000 บาท ในรถเล็กที่ทำอัตราสิ้นเปลืองในยุคน้ำมันแพงประหยัดใช้ได้ อยู่ที่คุณจะอดใจไหวหรือเปล่าเพราะ Swift วิ่งเร็วๆ แล้วสนุกอย่างเหลือเชื่อ เป็นรถที่ดีในราคาที่เหมาะสม ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะถูกลง.  

Suzuki Swift 2022 ราคา
Suzuki SWIFT รุ่น GL CVT 557,000 บาท 
Suzuki SWIFT รุ่น GL PLUS CVT 567,000 บาท (ชุดแต่งรอบคัน NEW 2021)
Suzuki SWIFT รุ่น GLX CVT 629,000 บาท (คันทดสอบ) 

Suzuki Swift 1.2L GLX CVT
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 185/55 R16
ระบบเบรกคู่หน้า ดิสก์เบรก / คู่หลัง ดิสก์เบรก
ไฟหน้า Projector Lens แบบ LED
สวิตช์ปรับระดับไฟหน้าสูง-ต่ำ
ไฟหรี่ แบบ LED
ไฟ Daytime Running Lights แบบ LED ที่ชุดโคมไฟหน้า
ไฟตัดหมอกคู่หน้า
กระจังหน้าสีดำ ตกแต่งด้วยเส้นโครเมียมสีเงิน
กระจกมองข้าง ปรับและพับด้วยไฟฟ้า
กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
มือเปิดประตูด้านในโครเมียม
มือจับบนเพดาน 4 ตำแหน่ง (คู่หน้า-คู่หลัง)
พวงมาลัยหุ้มหนัง
พวงมาลัย ปรับได้ 4 ทิศทาง (Telescopic : ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
ปุ่มรับสาย-โทรออก บนพวงมาลัย
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ Push Start Button
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมหน้าจอแสดงผลดิจิทัล
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบ LCD Screen
จอแสดงความเร็วเฉลี่ย และอุณหภูมิภายนอก
ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
จอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน
รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
กล้องมองหลัง.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/