ขับก่อนเขียน รีวิว MAZDA CX-30 2.0 SP PLATINUM QUARTZ




การแนะนำ Mazda CX-30 รุ่นเพิ่มอุปกรณ์ รถครอสโอเวอร์ตัวขายดี จัดเทคโนโลยีความปลอดภัยครบตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น สีใหม่ล่าสุด บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ Platinum Quartz มาทั้งหมด 3 รุ่นย่อย วางขายราคาเดิม เริ่มต้น 989,000 บาท ดอกเบี้ย 1.99% 1 ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี พร้อมส่งมอบรถใหม่แต่ต้องรอกันพอสมควร 

Mazda CX-30 รุ่นเพิ่มอุปกรณ์ ราคา
รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)

ยอดขายที่ไปได้สวย Mazda CX-30 ในประเทศไทย ประสบความสำเร็จจากความนิยม ภายหลังจากเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2563 รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ไซส์เล็กอย่าง CX-30 ทำยอดจอง 2,000 คัน ภายในระยะเวลาไม่กี่อาทิตย์ เป็นรุ่นหลักที่สร้างยอดขายให้กับรถอเนกประสงค์ในตระกูล CX-Series อย่างต่อเนื่อง ปี 2564 ที่ผ่านมา CX-30 มียอดขายที่เติบโตขึ้น 30.9% เมื่อเทียบกับปี 2563 และมียอดจำหน่ายสะสมแล้วกว่า 14,000 คัน ในระยะเวลา 22 เดือน แสดงให้เห็นถึงความนิยมและความต้องการรถรุ่นนี้ที่ยังคงมีอยู่มาก สำหรับการปรับเพิ่มอุปกรณ์ของ Mazda CX-30 มีการเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยและความสะดวกสบายตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แนะนำสีภายนอกใหม่ บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ เป็นสีใหม่ที่ออกมาเพื่อกระตุ้นความอยากได้ของคนที่กำลังเล็งอยู่อย่างใจจดจ่อ

Mazda CX-30 ใช้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินตัวเดิมที่พัฒนามาจนสุดทางแล้ว เครื่อง 4 สูบเรียง วางตามขวาง ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุ 2.0 ลิตร เทคโนโลยีเดิม SKYACTIV-G กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุดพอไปวัดไปวาได้ ไม่อืดที่ 213 นิวตัน-เมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เคลมมา 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร ขับจริงอัดต่อเนื่องบนเส้นทางภูเขาทำได้ 8.9 กิโลเมตรต่อลิตร ถึง 11.1 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมัน E85 เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีด จุดเด่นของ CX-30 ก็คือ แชสซีสกายแอคทีฟแพลตฟอร์ม เจเนอเรชันใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง G-Vectoring Control Plus เทคโนโลยีเฉพาะของ Mazda ที่ถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ระบบความปลอดภัยใหม่ เช่น ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน LED Signature, ไฟท้ายแบบ LED Signature, ระบบเซนเซอร์กะระยะด้านหน้าและด้านหลัง, กล้องมองหลัง และระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS และเพิ่มความเร็วสูงสุดของระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS ให้สามารถทำงานได้ถึง 145 กม./ชม. การเชื่อมต่อแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ผ่านระบบ Mazda Connect รองรับ Apple CarPlay® และ Android AutoTM* แสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสี Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่ม Center Commander ระบบเสียง Bose® รอบทิศทาง ลำโพง 12 ตำแหน่ง อีกจุดที่ชอบมากก็คือระบบไฟ Adaptive LED ที่มีการทำงานของชุดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ระบบจะแบ่งช่องไฟ แม้จะยกไฟสูง เพื่อไม่ทำให้แสงไฟ แยงตารถคันข้างหน้า หรือรถที่แล่นสวนทางมา ลองใช้งานจริงบนถนนจากห้วยกระพร้อยมายังบายพาสสุพรรณบุรี ไฟหน้าอัตโนมัติทำงานได้เป็นอย่างดี และช่วยทำให้การขับบนถนนที่ไม่มีแสงไฟมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น 

Mazda CX-30 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น

รุ่น 2.0 C เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น ไฟหน้าโปรเจกเตอร์แบบ LED และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบ LED Signature, ไฟท้ายแบบ LED Signature, ล้ออัลลอย ขนาด 16”, หน้าจอ Center Display ขนาด 8.8” พร้อมปุ่มควบคุม Center Commander, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง, กล้องมองหลัง, และระบบ i-Activsense 3

รุ่น 2.0 S เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร ล้ออัลลอย 18” ลายใหม่, ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sports Paddle Shift, ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 C)

รุ่น 2.0 SP เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า, ระบบเสียง BOSE® รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง, ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง และระบบ i-Activsense มากถึง 11 ระบบ (หมายเหตุ:เพิ่มเติมจากรุ่น 2.0 S)

จุดเด่นของ CX-30 นอกจากจะขับได้ดีแล้ว มันยังเป็นรถที่ออกแบบได้อย่างสมส่วน ไล่เรียงจากไฟหน้าที่มาพร้อมไฟหรี่ LED Daytime Running Light พร้อมชุดไฟอัตโนมัติเหมือนกับ Mazda 3 2.0 SP รุ่นท็อปสุด ไฟอัตโนมัติมีกำลังในการส่องสว่างไกลพอสมควร ครอบคลุมการมองเห็นในที่มืดได้ดี ระบบไฟ ALH (ADAPTIVE LED HEADLAMPS) ยกหรือลดไฟสูงอัตโนมัติ บางจังหวะหากถนนมืดสนิดปราศจากแสงไฟส่องทางแล้วมีรถแล่นสวนมา ALH ใน Mazda CX-30 จะยังคงยกไฟสูงค้างไว้แต่ใช้การเบี่ยงเบนลำแสงเพื่อไม่ให้ไปแยงตารถที่แล่นสวนมา Adaptive LED ของ Mazda ทำงานเร็วและมีความฉลาดหลักแหลมใช้ได้เลยทีเดียว

CX-30 สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz) คันทดสอบของ Mazda Sales Thailand เป็นรถรุ่นสูงสุด 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท ใช้แพลตฟอร์มใหม่ร่วมกับ New Mazda 3 แต่แตกต่างกันที่รูปลักษณ์ภายนอก งานตกแต่งภายในและรูปแบบของการใช้งาน ตัวถังถูกยกสูงมากกว่า Mazda CX-3 ใส่ระบบขับเคลื่อนของ Mazda 3 ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์และชุดส่งกำลัง ปรับแต่งระบบรองรับใหม่ให้แตกต่างไปจาก CX-3 รวมถึงพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกว่า New Mazda 3

Mazda CX-30 เป็นรถครอสโอเวอร์ไซส์เล็กที่ออกแบบได้อย่างลงตัวและงดงาม เสาหน้าเอนลาดด้วยองศาที่สมบูรณ์แบบและลงตัว ด้านข้างไหลลื่นแบบเรียบๆ ปราศจากคิ้วที่ทำให้ดูรก เสาท้ายออกแบบได้อย่างสวยงามสอดประสานไปกับผืนหลังคาที่ค่อยๆ ลาดเทลงไปยังส่วนท้าย ฝาท้ายแบบใหม่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า เมื่อเปิดออกแล้วพับเบาะหลังเพื่อขนสัมภาระก็จะได้พื้นที่เก็บของมากกว่า Mazda CX-3 มีจุดที่น่ามองมากที่สุดก็คือดีไซน์ของไฟท้าย LED ที่ออกแบบได้อย่างลงตัวจากเส้นลากผ่านกลางระหว่างไฟท้ายทั้งซ้ายและขวา กันชนหลังเป็นชิ้นงานพลาสติกสีดำขนาดใหญ่เชื่อมโยงมาจากซุ้มล้อหลัง ท่อระบายไอเสียฝั่งละท่อที่เป็นของจริงไม่ใช่ท่อหลอกๆ ที่ตกแต่งเพื่อความสวยงาม มิติตัวถังของ CX-30 มีความยาว 4,395 มิลลิเมตร กว้าง 1,795 มิลลิเมตร สูง 1,540 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,655 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหน้า 1,565 มิลลิเมตร ระยะห่างล้อหลัง 1,565 มิลลเมตร ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 175 มิลลิเมตร รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.3 เมตร น้ำหนักในรุ่น 2.0 SP 1,423 กิโลกรัม หนักกว่ารุ่น C เล็กน้อยจากอุปกรณ์ที่ให้มามากกว่า

ห้องโดยสาร จัดวางฟังก์ชันการใช้งานในตำแหน่งศูนย์กลาง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง คอนโซลกลางและที่วางแขนด้านหน้า รองรับช่อง USB ช่องเก็บของขนาดใหญ่ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า Windshield Active Driving Display แผงหน้าปัดและมาตรวัดดิจิทัล TFT LCD พร้อมหน้าจอแสดงผลแบบสี ขนาด 7 นิ้ว พนักพิงเบาะหลังแยกพับ 60:40 ห้องโดยสารของ Mazda CX-30 รุ่นสูงสุด 2.0 SP ตกแต่งมาเป็นอย่างดีด้วยหนังสังเคราะห์ที่ช่วยสร้างสัมผัสอ่อนนุ่ม แดชบอร์ดดีไซน์ใหม่แตกต่างจาก New Mazda 3 ชัดเจนด้วยรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ แดชบอร์ดทำจากโฟมขึ้นรูปหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สีน้ำตาลตัดกับสีดำของชิ้นงานพลาสติกคอนโซล หลังคาซันรูฟไฟฟ้ามีไว้เท่ๆ ไม่ค่อยได้ใช้งานจริงจังอะไร ดีไซเนอร์ของ Mazda ออกแบบจอแสงผลกลางได้ดี ทำออกมาคล้ายๆ กับจอภาพมอนิเตอร์ของค่าย BMW ช่องแอร์ที่ล้อมกรอบจอภาพมาตรวัดในตำแหน่งคนขับกับช่องแอร์ทรงสี่เหลี่ยมของผู้โดยสารตอนหน้าเข้ากับคอนโซลได้อย่างกลมกลืน การใช้งานปุ่มหรือสวิตช์ต่างๆ เอื้อประโยชน์สำหรับคนขับมากเป็นพิเศษ จุดที่ทำออกมาได้แตกต่างจากรถ Mazda ทั่วไปก็คือ แผงประตูที่มีแผงกรวยลำโพงของ Bose มือจับประตูทรงแปลกตากับหนังสีน้ำตาลสลับสีดำ เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาว รูปแบบและการเลือกใช้วัสดุที่ดูดีทำให้ภายในของรถ Mazda ยุคใหม่คล้ายงานตกแต่งภายในของค่ายรถฝั่งยุโรปเข้าไปทุกที

เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง หุ้มหนังสีเทา-ดำ เย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีน้ำตาล เบาะผู้โดยสารตอนหน้าใช้วิธีปรับด้วยมือแทนที่จะเป็นเบาะไฟฟ้าคู่หน้าไปเลย จุดนี้ถ้าจัดเบาะปรับไฟฟ้าทั้งสองตัวจะดีงามพระรามหกมากกว่านี้อีกเยอะ พนักพิงศีรษะใช้วัสดุนุ่มพิเศษ ทำให้การขับทางไกลมีความสบายต้นคอและศีรษะใช้ได้เลยทีเดียว เบาะหลังมีพนักพิงหลังค่อนข้างตั้งชันไปนิด แต่นั่งได้แบบไม่อึดอัด สำหรับคนที่มีสัดส่วนความสูงไม่เกิน 180 เซนติเมตร ก็ยังนั่งได้โดยที่หัวยังเหลือพื้นที่นิดหน่อย ส่วนพื้นที่วางเท้า ถ้าคนนั่งหน้าดันเป็นคนตัวสูงโย่งและต้องร่นเบาะถอยหลังมาก็อาจสร้างความอึดอัดให้กับคนนั่งหลังได้ ส่วนใหญ่ความสูงเฉลี่ยของคนไทยก็ไม่เกิน 175 เซนติเมตรอยู่แล้ว ห้องโดยสารของ CX-30 แม้จะมีพื้นที่เหนือศีรษะไม่มากนัก แต่ก็แลกกับความสมบูรณ์ของงานออกแบบที่เชื่อมโยงกับสไตล์สปอร์ตแฮตช์แบคครอสโอเวอร์ ว่ากันไปนั่นเลยทีเดียว

พวงมาลัยสามก้านของ CX-30 หุ้มหนังแท้ มีก้านวงที่เรียวเล็กคล้ายกับพวงมาลัยของ MX-5 ก้านวงติดตั้งสวิตช์มัลติฟังก์ชัน ด้านขวาเป็นสวิตช์ปรับตั้งความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control ส่วนก้านวงด้านซ้ายคือสวิตช์ปรับตั้งเครื่องเสียงและการเลือกโหมดต่างๆ ปุ่มรับหรือวางสายโทรศัพท์และปุ่มปรับจอภาพมาตรวัด TFT LCD ที่ปรับการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ หลังวงพวงมาลัยมีแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ทำจากพลาสติกสีดำ 

มาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัล TFT LCD พร้อมจอแสดงผลแบบสี ขนาด 7 นิ้ว มาตรวัดตรงกลางแบบจอภาพ สามารถแสดงผลได้ 3 รูปแบบ เช่น เป็นมาตรวัดความเร็วแบบเข็ม แสดงผลจาก 0 ไปจนถึง 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แสดงผลการทำงานของระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE หรือแสดงผลทั้งมาตรวัดความเร็วและการคำนวนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง สำหรับมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ที่ด้านซ้ายและมาตรวัดเชื้อเพลิงกับอุณหภูมิของเครื่องยนต์ที่ด้านขวายังใช้แบบเข็มวัดเหมือนเดิม การออกแบบที่ดีทำให้มาตรวัดของ CX-30 อ่านค่าได้ง่าย คอมพิวเตอร์คำนวณอัตราสิ้นเปลืองค่อนข้างตรง การแสดงผลตำแหน่งเกียร์ และสเกลการใช้พลังงานที่คำนวณออกมาเป็นระยะทางที่สามารถวิ่งไปถึงช่วยทำให้สามารถคำนวณเชื้อเพลิงที่เหลือภายในถังต่อระยะทางสะดวกขึ้นเยอะ

หน้าจอสี center display แบบ widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุม center commander รองรับ apple carplay วิทยุ AM/FM ระบบเชื่อมต่อ USB สองช่อง ระบบสั่งงานด้วยเสียง สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนพวงมาลัย จอภาพมอนิเตอร์ยังเชื่อมโยงกับกล้องมองรอบทิศทางที่ให้ภาพค่อนข้างชัดเจน ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินขณะขับถอยหลังจะทำงานทันทีที่มีอะไรเข้ามากีดขวางการถอยแล้วเซนเซอร์ตรวจจับได้ ก็จะสั่งให้ระบบเบรกทำงานทันที

หน้าจอสี center display ควบรวมการทำงานกับระบบเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร การปรับตั้งค่าต่างๆ ของรถ การปรับตั้งการทำงานของระบบความปลอดภัย ทั้งหมด ควบคุมผ่านปุ่ม center commander ที่มีลักษณะคล้ายกับปุ่ม MMI multimedia interface ของ Audi ซึ่งออกแบบให้ใช้งานได้ง่ายและเร็วในการเข้าออกจากเมนูต่างๆ รวมถึงปุ่มควบคุมระดับความดังของเสียงก็ยังเหมือนกับ Audi บางรุ่นอีกตะหาก นอกจาก Mazda ที่ใช้ปุ่มควบคุม center commander ก็แทบจะไม่มีรถญี่ปุ่นแบรนด์ไหนที่ขายรถในไทยแล้วมีปุ่มควบคุมในลักษณะดังกล่าวแม้แต่ยี่ห้อเดียว! ส่วนใหญ่ใช้การแตะที่จอภาพซึ่งไม่รวดเร็วเท่ากับการสั่งงานผ่านปุ่มควบคุม center commander จุดนี้ ถือว่า Mazda ทำออกมาได้ดีมาก center commander ติดตั้งมาให้ใช้งานในรถยนต์ Mazda รุ่นใหม่ ไล่เรียงตั้งแต่ Mazda 2 ไปจนถึง Mazda CX-8

Mazda CX-30 ประจำการด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร รุ่นเดิมแต่มีการปรับปรุงใหม่เล็กๆ น้อยๆ เพื่อเติมประสิทธิภาพการทำงาน ระบบส่งกำลัง 6 สปีดปรับเซตอัตราทดมาใหม่เพื่อการทดกำลังที่ตอบสนองได้ดีขึ้น เครื่องยนต์และเกียร์ก็ทำงานร่วมกันได้ดี อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเมื่อขับแบบปกติอยู่ที่ 10.7 กิโลเมตรต่อลิตร ถ้าขับเร็วๆ และเมื่อขับในย่านความเร็วต่ำ อัตราสิ้นเปลืองดีขึ้นนิดเดียวเท่านั้น อยู่ที่ประมาณ 11.3 กิโลเมตรต่อลิตร เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว ฝาสูบและแคมชาร์ปแบบดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาร์ป DOHC มีการติดตั้งระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual S-VT ปริมาตรความจุ 1,998 ซีซี อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1 กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดทำได้ 213 นิวตันเมตรในย่าน 4,000 รอบต่อนาที สมน้ำสมเนื้อกับขนาดและน้ำหนัก ไม่ได้แรงแต่ก็ไม่อืด เร่งแซงพอได้แค่กะระยะให้ดี ส่วนชุดส่งกำลังใช้เกียร์ออโต้ลูกเดิม Skyactiv-Drive 6 สปีด ขับเรื่อยๆ พอใช้ได้ เครื่องยนต์ตอบสนองดี แต่ถ้าวางเครื่องเบนซินเทอร์โบ 2.5 ลิตรที่ประจำการอยู่ใน CX-5 รุ่นปรับโฉมก็น่าจะทำให้ MazdaCX-30 ใหม่มีสมรรถนะแจ่มมากกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรแบบหายใจเองที่ไม่ค่อยจะแรงเท่าที่ควร

ท่านั่งมีความสำคัญและใน CX-30 ก็ทำออกมาได้ดี ถ้าอยากนั่งจมติดกับพื้นรถแบบสปอร์ตก็แค่ปรับกดเบาะให้ต่ำลง หรือชอบนั่งแบบปกติก็ยกความสูงของเบาะให้พอดีกับการมองโดยยังคงเหลือพื้นที่เหนือศีรษะมากพอที่จะไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด มาตรวัด TFT LCD วางตำแหน่งให้มองลอดพวงมาลัยได้อย่างชัดเจน รวมถึงจอภาพแสดงข้อมูลที่ยิงสะท้อนกระจกตรงหน้าคนขับสามารถปรับระดับเพื่อการมองที่แจ่มชัด คันเกียร์และหัวเกียร์ออกแบบให้จับกระชับมือใช้ได้ สวิตช์ควบคุมข้างคันเกียร์อยู่ในจุดที่ง่ายต่อการเข้าถึง แป้นเบรกและคันเร่งจัดวางในตำแหน่งที่ไม่เยื้องกันมากจนเกินไป แต่แป้นเบรกของ CX-30 ต้องใช้เวลาปรับความคุ้นชินกันสักพัก เมื่อจะเบรกก็กดแป้นเบรกให้มากกว่าปกติเล็กน้อย สัมผัสของการเบรกที่แตกต่างไปจากเบรกของ Mazda 3 ใน CX-30 คุณต้องออกแรงฝ่าเท้าเพิ่มเล็กน้อยเมื่อคิดจะชะลอหรือหยุดรถ ขับไปสักพักก็จะชินไปเองกับน้ำหนักของการเบรกและระยะของการหยุด

เครื่องยนต์ไม่ได่เน้นแรงบิดมากมายอะไร ได้พออาศัยเร่งแซงรถช้าได้แบบไม่ต้องลุ้นกันมากนัก เกียร์ทำงานได้ดีโดยเฉพาะการไล่ระดับเกียร์เมื่อกดคันเร่งหรือลดเกียร์เมื่อใช้เบรกมีความเนียนไร้รอยต่อ แรงบิด 213 นิวตันเมตร วิ่งขึ้นลงทางลาดชันโดยไม่ต้องใช้รอบสูงมาก แป้น Paddle Shift ตอบสนองเร็ว หรือจะเปลี่ยนเกียร์เองโดยใช้คันเกียร์ในตำแหน่ง +/- ด้วยการผลักคันเกียร์ไปทางขวาเพื่อเข้าสู่โหมดแมนนวลก็ได้ลองกดคันเร่งจนสุด CX-30 2.0SP  มีอาการทอร์คสเตียร์บางๆ (อาการดึงที่พวงมาลัย) เกิดขึ้นเล็กน้อย รถค่อยๆ พุ่งออกตัวอย่างมั่นคงเนื่องจากมีแรงบิดไม่มากพอที่จะทำให้มันเกิดอาการดีดดิ้น เมื่อเร่งขึ้นไปเรื่อยๆ คุณจะพบว่า มันเป็นรถที่มีความเสถียรอย่างไม่น่าเชื่อในย่านความเร็วสูง เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้น พวงมาลัยไฟฟ้าจะปรับหน่วงให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นไปตามความเร็ว จากที่เคยมีน้ำหนักเบาสบายมือ รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวเวลาถอยเข้าออกจากที่คับแคบ น้ำหนักพวงมาลัยก็จะเปลี่ยนไปเมื่อขับเร็วจี๋ บนโค้งยาว เมื่อลองเลี้ยงคันเร่งให้เหมาะสมกับสภาพของโค้ง CX-30 ก็ยังเกาะหนึบ มันมีอาการโคลงตัวเล็กน้อยเมื่อเจอเข้ากับถนนที่ไม่เรียบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรถที่ถูกยกสัดส่วนความสูง จะไม่ให้โคลงเลยก็ต้องโหลดเตี้ย แต่คุณก็จะเจอกับอาการกระเด้งกระดอนเข้ามาแทนที่อาการโคลงตัว เรียกว่าได้อย่างเสียอย่าง จะเอาทั้งเตี้ย ทั้งนิ่งไม่แข็งกระด้างและกระเด้ง ชาตินี้คงหารถขับลำบากน่าดูละครับ

เกียร์ 6 สปีด Skyactiv-Drive ใช้มานานหลายปีแล้วแต่ก็ยังทำหน้าที่ได้ดี อัตราทดที่เซตมาค่อนข้างลงตัวช่วยทำให้ประหยัดน้ำมัน เมื่อรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาวไม่กดคันเร่งเพลินจนทำให้เกียร์ต้องชิฟลงต่ำต่อเนื่องก็จะได้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองที่น่าพอใจ ขับเรื่อยๆ ความเร็ว 90-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำได้ 11.3 กิโลเมตรต่อลิตร และเมื่อจัดหนักอัดอย่างโหด คาโหมดสปอร์ตแช่ยาว อัตราสิ้นเปลืองจะหล่นลงมาเหลือแค่ 10.5 กิโลเมตรต่อลิตร เกียร์อัตโนมัติทำงานไหลลื่นไม่มีอาการกระตุกกระชาก ให้อารมณ์คล้ายๆ เกียร์ CVT ทั้งๆ ที่เป็นเกียร์เฟืองไม่ใช่สายพาน! ส่วนแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ใช้งานได้จริง เหมาะสมกับทางขึ้นลงภูเขาสูงชันที่ต้องคาเกียร์เพื่อไต่ขึ้นหรือไหลลงจากเนิน เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ของ Mazda CX-30 ผ่อนถ่ายอัตราทดได้ลื่นไหลดี ทำงานเรียบเนียนและมีประสิทธิภาพที่แจ่มแจ้งกว่าเกียร์ CVT ในอนาคต Mazda น่าจะทำเกียร์ขับหน้าที่มีอัตราทดมากกว่านี้เพื่อปรับให้สมรรถนะด้านการส่งกำลังดีขึ้นกว่าเดิม

การใช้ช่วงล่างหลังแบบคานแข็งแทนที่จะใช้แบบมัลติลิ้งค์ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าเนื่องจากมีชิ้นส่วนเยอะกว่า ช่างที่จูนรถจะต้องมั่นใจอย่างมากกับช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบีม ความรู้สึกโดยรวมหลังการขับบนถนนที่มีความหลากหลายของสุพรรณบุรีและกาญจนบุรี มีทั้งทางตรงยาว ทางโค้งสลับขึ้นลงเนินที่คดเคี้ยว ระบบรองรับของ CX-30 เซตออกมาในแบบสบายๆ โอนอ่อนผ่อนคลายมากกว่า Mazda 3 เล็กน้อย บนถนนเรียบๆ ให้ทั้งความหนึบและความนุ่นนวล เมื่อวิ่งบนผิวทางที่ขุรขระอย่างทางลูกรังก็มีอาการกระเด้งกระดอนไม่มาก ไม่สะเทือนจนทำให้รู้สึกรำคาญ เป็นช่วงล่างแนวครอสโอเวอร์ที่จูนมาอย่างลงตัว ใช้งานได้ดีทั้งการขับบนทางเรียบ หรือเอาไปวิ่งบนถนนลูกรังก็ยังได้ ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 175 มิลลิเมตร พอที่จะลุยทางวิบากได้บ้างแบบพอหอมปากหอมคอ แต่ถ้าเอาไปลุยหนักฝ่าหล่มโคลนเห็นทีจะไม่รอด

CX-30 มีความสามารถเชิงบวกในด้านการวิ่งด้วยความเร็วคงที่บนไฮเวย์ จากความสบายที่ส่งถ่ายออกมารวมถึงการเก็บเสียงที่ทำออกมาพอใช้ได้ เสียงยางจะเริ่มดังให้ได้ยินเบาๆ ที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อลองขับให้เร็วขึ้นมันก็ไม่ได้ดังรบกวนโสตประสาทจนน่ารำคาญ ยาง dunlop sp sport maxx 050 ทำหน้าที่ได้ดีโดยเฉพาะถนนแห้งๆ ที่มีอุณหภูมิสูงแถบกาญจนบุรี ยางยึดเกาะได้ดีในโค้งมุมแคบ ส่วนอาการหน้าดื้อโค้งที่เป็นสันดานของรถขับหน้า คุณต้องใช้ความเร็วเกินกว่าสภาพโค้งพอสมควร CX-30 ถึงจะเริ่มออกอาการ แก้ได้ง่ายด้วยการยกคันเร่งหรือแตะเบรกเบาๆ ก่อนมุดเข้าโค้ง พวงมาลัยก็จะลดอาการขืนตัวในโค้งไปโดยปริยาย ความแม่นยำและเที่ยงตรงของพวงมาลัยใน CX-30 สูสีกับ Mazda 3 แต่ในย่านความเร็วสูง พวงมาลัยของเจ้า 3 รุ่นใหม่ดูจะหน่วงได้หนักมือกว่า CX-30 นิดๆ โดยภาพรวม การเซตช่วงล่างและชุดบังคับเลี้ยวให้เข้ากับแชสซีคือความสามารถของ Mazda และ CX-30 ก็คือรถอีกคันที่ปรับจูนไดนามิกของตัวรถให้แตกต่างจากพี่น้องร่วมวงศ์ตระกูล ขับสบายบังคับทิศทางได้ง่ายและมีทุกอย่างเท่าที่คุณต้องการในรถรุ่นสูงสุด.

ระบบและอุปกรณ์ต่างๆ ใน Mazda CX-30 2.0 SP

G-VECTORING CONTROL PLUS (GVC PLUS)
ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูง

GVC Plus หนึ่งในเทคโนโลยีภายใต้ Skyactiv-Vehicle Dynamics พัฒนาต่อยอดจากระบบ GVC ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยำและสมดุล โดยเฉพาะในทางโค้ง และในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ขับ All-New Mazda CX-30 สัมผัสถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับรถ

ขณะรถเริ่มเข้าโค้ง เครื่องยนต์จะลดแรงบิดลงเล็กน้อยเพื่อปรับให้แรงบิดที่ส่งถ่ายออกมามีความเหมาะสมกับสภาพของโค้ง ทำให้น้ำหนักถูกถ่ายลงไปที่ล้อหน้าซึ่งเป็นล้อขับเคลื่อนและควบคุมทิศทาง ส่งผลให้ล้อหน้ายึดเกาะถนนได้ดีขึ้น

ในขณะที่รถกำลังอยู่กลางโค้ง ระบบจะคืนแรงบิดให้อยู่ในสภาวะการณ์ปกติ เพื่อควบคุมการถ่ายเทน้ำหนักของตัวรถ ในมีความสมดุลสูงสุดทั้งหน้าและหลัง ส่งผลให้การแก้พวงมาลัยเกิดขึ้นน้อยลง

ในขณะรถแล่นออกจากปลายโค้ง ระบบจะตรวจสอบองศาของพวงมาลัย เพื่อคำนวณการเบรกเล็กน้อยที่ล้อหน้าฝั่งนอกโค้ง ทำให้รถแล่นกลับเข้าสู่ทางตรงได้อย่างรวดเร็ว

เทคโนโลยีความปลอดภัย I-ACTIVSENSE ใน Mazda CX-30

ALH (ADAPTIVE LED HEADLAMPS)
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับการทํางานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวา โดยอัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสภาพถนน ระยะห่างจากตําแหน่งของรถคันหน้าหรือรถที่วิ่งสวนมา เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืน และช่วยให้การทํางานของไฟสูงไม่ไปรบกวนรถคันอื่น

MRCC (MAZDA RADAR CRUISE CONTROL)
ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า หากพบรถคันหน้าที่มีความเร็วน้อยกว่า ระบบจะทําการปรับลดความเร็วลงตามความเร็วของรถคันหน้า และรักษาระยะห่างกับรถคันหน้าให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ โดยผู้ขับสามารถปรับระยะห่างจากรถคันหน้าได้ จากสวิตช์ที่พวงมาลัย ทั้งนี้ ระบบจะกลับไปใช้ความเร็วเดิม ที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ เมื่อตรวจสอบแล้วว่าไม่มีรถอยู่ด้านหน้า

CTS (CRUISING & TRAFFIC SUPPORT)
ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า เป็นระบบ ซึ่งสามารถควบคุมความเร็วของรถ ระยะห่างจากรถคันหน้า และช่วยบังคับพวงมาลัยไปตามทิศทางของรถคันหน้า เพื่อช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับ เมื่อต้องขับรถในเส้นทางที่มีการจราจรหนาแน่น โดยระบบจะทำงานที่ความเร็วระหว่าง 30-60 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากผู้ขับละมือออกจากพวงมาลัย ระบบจะไม่สามารถทำงานได้

ADVANCED SBS (ADVANCED SMART BRAKE SUPPORT)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ แบบ Advance ระบบจะตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและเสียงเตือนอย่างต่อเนื่อง ถ้า ผู้ขับไม่ได้ทําการเบรก ระบบจะช่วยเบรกให้โดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ

LDWS (LANE DEPARTURE WARNING SYSTEM)
ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนไฟกะพริบบนหน้าปัด พร้อมส่งเสียงเตือน เมื่อตรวจพบการเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและเพิ่ม ความมั่นใจในการขับขี่ไฟสูงไม่รบกวนรถคันที่วิ่งสวนมา

DAA (DRIVER ATTENTION ALERT)
ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะขณะขับรถทางไกล ระบบจะติดตามพฤติกรรมและสมาธิในการขับขี่ หากตรวจพบความผิดปกติของพฤติกรรมการขับขี่ หรือขับขี่ติดต่อกันนาน ระบบจะขึ้นข้อความแนะนําให้หยุดพัก

LAS (LANE-KEEP ASSIST SYSTEM)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในกรณีที่ตรวจพบ การเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบจะส่ง สัญญาณเตือนหรือเตือนโดยการสั่นที่พวงมาลัย และช่วยปรับทิศทางพวงมาลัยให้รถกลับเข้าสู่เลน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางไฟต่ำมุมกว้าง เพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่

SBS (SMART BRAKE SUPPORT)
ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ ระบบจะตรวจจับระยะห่างระหว่างรถของคุณและรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการชนรถคันหน้า ระบบจะส่งสัญญาณเตือนและเสียงเตือนอย่างต่อเนื่อง ถ้าผู้ขับไม่ได้ทําการเบรก ระบบจะช่วยทําการเบรกโดยอัตโนมัติ เพื่อลดโอกาสในการชนรถคันหน้า

RCTA (REAR CROSS TRAFFIC ALERT)
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนพร้อมไฟกะพริบเตือน ที่กระจกมองข้างขณะขับรถถอยหลัง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุกับรถที่กำลัง เคลื่อนที่เข้ามาด้านหลัง

Mazda CX-30 2.0 SP Specification
เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ Dual S-VT ระบบไอเสีย 4-2-1 พร้อมระบบ i-Stop
ปริมาตรความจุกระบอกสูบ 1,998 ซีซี
อัตราส่วนกำลังอัด 13.0:1
ความกว้างกระบอกสูบ 83.5 มิลลิเมตร
ช่วงชัก 91.2 มิลลิเมตร
กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง อิเล็กทรอนิกส์ ไดเรคอินเจคชั่น
ความจุถังเชื้อเพลิง 51 ลิตร
น้ำมันเชื้อเพลิง E10 /E20/E85/91/95
มาตรฐานมลพิษ EURO-4

อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 15.1 กิโลเมตรต่อลิตร
ระบบคันเร่ง คันเร่งไฟฟ้าแบบ drive by wire
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ Skyactiv-Drive 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด

อัตราทดเกียร์
เกียร์ 1 3.552
เกียร์ 2 2.022
เกียร์ 3 1.347
เกียร์ 4 1.000
เกียร์ 5 0.745
เกียร์ 6 0.599
เกียร์ถอยหลัง 3.052
อัตราทดเฟืองท้าย 4.095

skyactiv-vehicle dynamic with g-vectoring control plus
ระบบช่วยประหยัดเชื้อเพลิง i-Stop
สวิตช์ driver selection
เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold
ระบบเบรกหน้า ดิสเบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ระบบเบรกหลัง ดิสเบรก
กันสะเทือนหน้า แมคเฟอร์สัน สตรัท สปริง โช้คอัพ เหล็กกันโคลง
กันสะเทือนหลัง ทอร์ชั่นบีม
ระบบพวงมาลัย แรคแอนพีเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงแบบไฟฟ้า EPAS

ล้อและยาง
ล้อหน้า 18x7J ยาง dunlop sp sport maxx 050 215/55R18
ล้อหลัง 18x7J ยาง dunlop sp sport maxx 050 215/55R18
ขนาดยางอะไหล่ T135/80D17

มิติตัวถัง
กว้าง 1,795 มิลลิเมตร
ยาว 4,395 มิลลิเมตร
สูง 1,540 มิลลิเมตร
ความยาวฐานล้อ 2,655 มิลลิเมตร
ระยะห่างล้อหน้า 1,565 มิลลิเมตร
ระยะห่างล้อหลัง 1,565 มิลลเมตร
ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 175 มิลลิเมตร
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.3 เมตร
น้ำหนัก 1,423 กิโลกรัม

หลังคาซันรูฟไฟฟ้า
ไฟหน้าโปรเจกเตอร์ LED
ไฟหน้าปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Light
ไฟท้ายแบบ LED signature light
ที่ปัดน้ำฝนหน้าอัตโนมัติ และที่ปัดน้ำฝนหลัง
กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
กระจกหน้าต่างปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติทั้ง 4 บาน
กระจังหน้าและวัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอก สีดำเปียโน
สปอยเลอร์หลัง
ท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ต ปลายท่อระบายท้ายโครเมี่ยม

เบาะหนังสีดำ
เบาะนั่งคนขับ ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง
ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะคนขับ 2 หน่วยความจำ
พนักพิงเบาะหลังแบบพับได้ 60:40
วัสดุหุ้มพวงมาลัยหนังสีดำ ตกแต่งสีเงินโครเมี่ยมที่สวิตช์ ก้านพวงมาลัยและกลางพวงมาลัย
วัสดุหุ้มหัวเกียร์ หนังสีดำ
วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้า สีน้ำตาล บริเวณคอนโซลส่วนบน สีดำ บริเวณคอนโซลกลาง
วัสดุตกแต่งแผงประตู สีน้ำตาล บริเวณพนักวางแขน หนังสีดำ บริเวณแผงข้างประตู
สีเงินโครเมี่ยมบริเวณมือจับประตู
วัสดุตกแต่งด้านข้างคอนโซลกลาง และฝาปิดช่องใส่ของคอนโซลกลาง หนังสีน้ำตาล
วัสดุตกแต่งที่เปิดกล่องเก็บของด้านหน้า และบริเวณปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ สีเงินโครเมี่ยม
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า windshield active driving display
มาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัล TFT LCD พร้อมจอแสดงผลแบบสี ขนาด 7 นิ้ว
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sport Paddle Shift
พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ระบบกุญแจรีโมต smart keyless entry

ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์ push start button
ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร LED
ไฟอ่านแผนที่แยกซ้าย-ขวา
ไฟในห้องโดยสาร
ไฟในห้องเก็บสัมภาระ
แผงบังแดดคู่หน้า พร้อมกระจกแต่งหน้าและไฟส่องสว่าง
ช่องเก็บแว่น
ที่วางแก้วคอนโซลกลาง พร้อมฝาปิด
ที่วางขวดน้ำบริเวณแผงประตูหน้าและหลัง
พนักวางแขนด้านหน้าแบบปรับเลื่อนได้
พนักวางแขนหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ
ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V
ประตูฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
แผ่นปิดสัมภาระท้าย

หน้าจอสี center display แบบ widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุม center commander
รองรับ apple carplay
วิทยุ AM/FM
ระบบเชื่อมต่อ USB สองช่อง
ระบบสั่งงานด้วยเสียง
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนพวงมาลัย
ระบบเสียง BOSE พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร

ระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE
Adaptive LED Headlamps (ALH)
ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ Adaptive Front-Lighting System (AFS) ระบบปรับมุมลำแสงไฟหน้าอัตโนมัติตามการเลี้ยวของรถ Advanced Blind Spot Monitoring (ABSM) ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
Lane-keep Assist System (LAS) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
Smart City Brake Support-Reverse (SCBS-R) ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง
Driver Attention Alert (DAA) ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่
Smart City Brake Support (SCBS) ระบบช่วยเบรกอัจฉริยะ ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการชนปะทะ
High Beam Control (HBC) เพิ่มวิสัยทัศน์ในเวลากลางคืน
Lane Departure Warning System (LDWS) ระบบสัญญาณเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ
Rear Cross Traffic Alert (RCTA) ระบบเรด้าร์ที่ช่วยเตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
ระบบควบคุมความเร็ว และ พวงมาลัยตามรถคันหน้า (Cruising & Traffic Support : CTS)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Mazda Radar Cruise Control : MRCC)

ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring Control แบบ PLUS
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง คู่หน้า 2 / ด้านข้าง 2 / ม่านนิรภัย 2 / หัวเข่าคนขับ 1
ระบบเบรก ABS และ EBD เสริมแรงเบรก BA
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ลื่นไถล (TCS)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA)

Mazda CX-30 สีตัวถัง 7 สี

สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์ (Sonic Silver)
สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)

Mazda CX-30 รุ่นเพิ่มอุปกรณ์ ราคา
รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/