กระทิงไฟฟ้า Lamborghini 2+2 electric GT




หลังจากการประกาศเปิดตัวไฮเปอร์คาร์ Le Mans / Daytona ซึ่งจะโผล่ออกมาในปี 2027-2028 Stephan Winkelmann นายใหญ่แบรนด์กระทิงเปลี่ยว ที่เพิ่งจะเดินทางมาไทยเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา กล่าวว่า ซุปเปอร์คาร์โมเดลที่สี่ต่อจาก Aventador, Huracán และ Urus จะเป็นรถสปอร์ตแบบ 2+2 โดยมีระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เพื่อความสบายในการเดินทาง ทำให้ลูกค้าไม่ต้องมาระวังในเรื่องของความเตี้ยกับสภาพผิวถนนที่ไม่เหมาะสม แบรนด์กระทิงเปลี่ยว กำลังดำเนินการหลายอย่างเพื่อปรับให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ถูกใจลูกค้า Winkelmann กล่าวว่า Lamborghini กำลังใช้ความพยายามอย่างหนัก ในการสร้างรถรุ่นใหม่ที่จะใช้สไตล์แกรนด์ทัวริ่งส์ “มันจะเป็นรถยนต์กึ่งอเนกประสงค์ และเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นใหม่ล่าสุดคันแรก ก่อนที่ Urus จะเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ที่ผสมผสานระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด เพื่อปรับให้ค่ามลพิษที่ถูกปล่อยออกมาลดลงจนอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด

Winkelmann ยังให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า รถยนต์ไฟฟ้ามีอิสระในการออกแบบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากรูปทรงของมันถูกกำหนดโดยแพลตฟอร์มที่ต้องมีการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ รวมถึงมอเตอร์ขับเคลื่อนและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่สลับซับซ้อน ตำแหน่งการวางและน้ำหนักของแบตเตอรี่ ทำให้รถไฟฟ้ามีสไตล์และการขับที่แตกต่างไปจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน Lamborghini มักจะออกแบบรถสปอร์ตที่มีรูปทรงโฉบเฉี่ยวล้ำไปในอนาคต และรถยนต์ไฟฟ้าแบบสี่ประตูของลัมโบฯ จะต้องมีรูปลักษณ์และการขับเคลื่อน ที่แสดงออกถึงความเป็นรถ Lamborghini อย่างเข้มข้นเสมอ

“อารมณ์และความรู้สึกหลังพวงมาลัย เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญ เพื่อรักษาเอกลักษณ์และตัวตนของแบรนด์เอาไว้ การปรับเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ไปเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า จะต้องไม่ทำให้อารมณ์การควบคุมของ Lamborghini ในอดีตจางหายไป และเป็นจุดแรกที่วิศวกรให้ความสำคัญกับการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก” เขากล่าวเสริม

คาดกันว่า Lamborghini พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ จะช่วยเพิ่มยอดขายของ Lambo เหมือนกับ Urus ซึ่งเป็นรถรุ่นขายดีของลัมโบฯ แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายอันดับหนึ่งของ Winkelmann เกี่ยวกับตัวเลขยอดขายในแต่ละปี ว่าจะขายได้กี่คัน

“แบรนด์ Lamborghini ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของการขับ มากกว่าจำนวนรถยนต์ที่เราส่งมอบ และผลลัพธ์ทางการเงิน ก็มีความสำคัญมากกว่ารถยนต์ที่เราส่งมอบเช่นกัน สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ในโมเดลที่สี่ จะทำให้เรามีโอกาสเพิ่มจำนวนยอดขายให้มากยิ่งขึ้น แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายที่สำคัญที่สุด” เขากล่าวเสริม

สิ่งที่มีความสำคัญก็คือ รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจะต้องให้ความรู้สึกในการขับเหมือนรถลัมโบฯ ด้วย “สำหรับระบบไฮบริด ใน Aventador และ Huracán รุ่นต่อไป เรามีความมุ่งมั่นอย่างชัดเจนในการปรับตั้งให้รถมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ดังนั้น จึงไม่มีความกังวนในแง่ของเสียงการทำงานจากเครื่องยนต์และประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่สูงกว่าเดิม 

ปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่กำลังได้รับความนิยม มักมีการขับที่แตกต่างไปจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่วิ่งได้ไกล 500-600 กิโลเมตร น้ำหนักตัวขณะที่เลี้ยวโค้งด้วยความเร็วสูงทำให้ความรู้สึกหรือฟิลลิ่งหลังพวงมาลัยเปลี่ยนไป สำหรับ Lamborghini แนวคิดในการปรับไดนามิกก็คือ ทำให้รถเข้าโค้งได้เร็ว โดยไม่ทำให้น้ำหนักแบตเตอรี่ส่งผลต่อความรู้สึกของคนขับ

“มันเกี่ยวกับวิธีคิดของแบรนด์ ที่จะต้องใส่ความสามารถในการจัดการทั้งหมดไว้ในรถ ซึ่งทุกวันนี้ไม่มีอยู่ในรถยนต์ไฟฟ้า ผมมั่นใจว่าเราทำได้” เขากล่าวเสริม

สำหรับคำถามเรื่องซุปเปอร์คาร์ไฮบริดที่จะออกขายในปี 2024-2025  Winkelmann กล่าวว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Urus รุ่นต่อไปจะทรงพลังยิ่งขึ้น และ Lamborghini รุ่นใหม่ พร้อมระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริดของแต่ละโมเดล จะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ดังนั้น เมื่อเกิดการผสมข้ามพันธุ์ ระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ในรถซุปเปอร์คาร์รุ่นใหม่ของ Lamborghini ผมมั่นใจว่ามันจะมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อน.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom
https://www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/